Categories
เที่ยวภาคอีสาน

ท่องเที่ยว จ.อุดรธานี 2

12 อันดับสถานที่ท่องเที่ยว จ.อุดรธานี

อนที่ 2

มาเที่ยวอุดรธานี อีก 5 สถานที่ท่องเที่ยวที่ยังเหลือลำดับที่ 6 –ลำดับที่ 12  ต่อจากบทความท่องเที่ยวอุดรธานีตอนที่ 1 กันเลยดีกว่า จะได้เที่ยวทิพย์ให้อิ่มอกอิ่มใจกันไปก่อนที่จะได้ไปเที่ยวในสถานที่จริงๆ เมื่อโรคระบาดโควิด 19 จากเราไปแล้ว

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

         6.คำชะโนด ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านม่วง อ.บ้างดุง จ.อุดรธานี โดยคำชะโนดตั้งอยู่ในพื้นที่ของ 3 ตำบลคือ ตำบลวังทอง ตำบลบ้านม่วง และตำบลบ้านจันทร์ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นดินแดนลี้ลับของพญานาค เรียกกันว่า วังนาคินทร์ เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของพญานาคปู่ศรีสุทโธ และย่าศรีประทุมมา มีลักษณะเป็นเกาะลอยน้ำที่เต็มไปด้วยต้นชะโนด เชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

          7.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลก ใครที่ชอบเรียนรู้วัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาด

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

          8.เขื่อนห้วยหลวง ตั้งอยู่ที่ ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นอ่างเก็บน้ำขนดใหญ่เพื่อการเกษตร การประมง และเป็นแหล่งน้ำเพื่อผลิตน้ำประปา ในอ่างเก็บน้ำมีที่ประทับ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบและชิวมากๆ ใครที่อยากพักผ่อนนอนเล่นบนแพ ดูฟ้าและน้ำ ไม่ควรพลาดสถานที่แห่งนี้ เพราะเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนสุดๆ

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

9.สวนสาธารณหนองประจักษ์ศิลปาคม ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล เมือง อุดรธานี นิยมเรียกกันสั้นๆว่าหนองประจักษ์ สถานที่แห่งนี้เป็นเสมือนแลนด์มาร์ค และเป็นแหล่งรวมกิจกรรมของชาวอุดรธานี ซึ่งก่อนหน้าเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า หนองนาเกลือ  เป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวอุดรธานี จนกระทั่ง ปี พ.ศ.2530 จึงมีการปรับแต่งภูมิทัศน์โดยรบเพื่อปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะของจังหวัด จุดเด่นคือมีลูกเป็ดยักษ์สีเหลืองสดใสลอยอยู่กลางน้ำ สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวอุดรธานี ถ้าได้ไปเที่ยวจังหวัดอุดรก็แวะไปนั่งเล่นเพลินๆกันได้

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

          10.ศูนย์วัฒนธรรมไทย – จีน ตั้งอยู่ที่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นสถานที่จำลองบรรยากาศแบบจีน เหมือนยกเมืองจีนมาไว้ใจกลางจังหวัดอุดรธานี สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเจ้าปู่และเจ้าย่าผู้เป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวอุดรธานี โดยมีศาลเจ้าปู่เจ้าย่าตั้งอยู่ภายในศูนย์วัฒนธรรม เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมเยือนได้เข้าไปเคารพกราบไหว้ขอพร

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

         11. ทุ่งดอกปอเทือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ป้ายแดงของจังหวัดอุดรธานี ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน โดยทุ่งดอกปอเทืองสีเหลืองอร่ามแห่งนี้ อยู่ในพื้นที่ อ.หนองแสง ซึ่งเกษตรกรเป็นคนช่วยกันปลูกเพื่อทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวและปรับสภาพดินในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก รวมพื้นที่กว่า 10,000 ไร่  โดยมีการเปิดเส้นทางปั่นจักรยานท่ามกลางทุ่งดอกปอเทืองให้นักท่องเที่ยวที่รักการปั่นได้สนุกกันอีกด้วย

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

         12.น้ำตกธารงาม เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในป่าขุนห้วยสามพาด และขุนห้วยกองสี อยู่ในเขตพื้นที่ของ ภูเขาภูพาน เขต อ.หนองแสง ซึ่งน้ำตกแห่งนี้ถือเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าดงดิบ มีชั้นน้ำตกที่กว้างใหญ่ และชั้นน้ำตกที่ลดหลั่นในระดับที่ไม่สูงนัก มีกระแสน้ำตกที่ไม่รุนแรงเหมาะกับการลงเล่นน้ำได้

          และทั้งหมด 12 สถานที่ท่องเที่ยวที่ของจังหวัดอุดรธานี เราได้พาไปคุณไปเที่ยวทิพย์กันล่วงหน้าก่อนที่จะออกเดินทางไปเที่ยวกันจริงๆหลังหมดการระบาดของโควิด 19 ถึงวันนั้นจัดกระเป๋าแล้ว อย่าลืมชวนไปเที่ยวด้วยล่ะกัน

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

คำขวัญจังหวัดอุดรธานี : กรมหลวงประจักษ์สร้างเมือง ลือเลื่องแหล่งธรรมะ อารยธรรมห้าพันปี ธานีผ้าหมี่ขิด

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

จังหวัดบึงกาฬ

เที่ยว จ.บึงกาฬ ไม่ไปไม่รู้ว่าอลังการกว่าที่คิด

จ.บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ 77 ซึ่งตั้งอยู่ทางภาตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย หลายคนคิดว่าคงไม่มีที่เที่ยวที่น่าสนใจ จึงไม่เคยวางโปรแกรมที่จะไปท่องเที่ยวที่จังหวัดนี้ ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนไปดุกันว่า บึงกาฬก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย บรรยากาศดี น่าประทับใจไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ จริงไม่จริงตามไปดูกันเลย

จ.บึงกาฬ
จ.บึงกาฬ

1.หินสามวาฬ

สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในกลุ่มท่องเที่ยว UNSEEN THAILAND จึงเป็นสานที่ท่องเที่ยวที่เป็น highlight ของจังหวัด ที่นี่เป็นโขดหินทรายขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬ แยกออกเป็น3 ก้อนขนาดลดหลั่นกันไป มองดูแล้วเหมือนปลาวาฬ พ่อแม่ลูกกำลังว่ายน้ำอยู่เคียงกัน สวยงามแปลกตามากๆเลยล่ะค่ะ

โดยหินสามวาฬ ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของภูสิงห์ พื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ถือเป็นจุดชมวิว และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงาม มองเห็นผืนป่าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา และมองเห็นแม่น้ำโขงได้อีกด้วย ซึ่งถ้าใครจะวะมาเที่ยวที่นี่ตอนหน้าฝนต้องสวมรองเท้าที่มีการยึดเกาะพื้นได้ดีจะได้เดินเที่ยวได้อย่างมั่นใจไม่ต้องกลัวลื่น

จ.บึงกาฬ
จ.บึงกาฬ

2.ภูทอก

เป็นสถานที่เที่ยวต่อมาก็ถือเป็นพิกัดห้ามพลาดของบึงกาฬที่ ที่เรียกว่าเป็น  Amazing Thailand เพราะเป็นเขาสองลูกมีขนาดเล็กใหญ่เชื่อมต่อกันอย่างสวยงามเสมือนงานปะติมากรรม ที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถือ เป็นศาสนสถาน แห่งหนึ่งเพราะมีวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรมอยู่บนภูทอก ซึ่งบนภูทอก

จะมีบันไดเวียนและมีสะพานไม้เวียนรอบๆเขา เพื่อเป็นทางพาไปยังจุดชมวิวและสถานปฏิบัติธรรม ณ วัดภูทอกที่ตั้งอยู่ด้านบนของภูทอกภูทอกนั้นมีทั้งหมด 7 ชั้น โดยชั้นที่คนนิยมขึ้นไปมากที่สุดคือชั้น 6 เพราะจะมีหน้าผายื่นออกออกไป สำหรับเป็นจุดชมวิว

แต่ถ้าใครที่อยากมานั่งสมาธิก็ให้ขึ้นไปได้ที่ชั้น 5 เพราะชั้น 5 จะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและเป็นกุฏิของพระสงฆ์ ที่ชั้นนี้ บรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการนั่งสมาธิและปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก

จ.บึงกาฬ
จ.บึงกาฬ

3.น้ำตกถ้ำพระ

เปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสความชุ่มฉ่ำกันที่น้ำตกถ้ำพระสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกสวยงาม ที่หลายคนมาเช็คอินน์กัน จุดเด่นของน้ำตกนี้ คือที่มีสไลเดอร์โขดหินแบบธรรมชาติให้ได้เล่นกัน   เรียกว่าใครได้ลองเล่นแล้วสนุกสุดๆ อยากจะกลับไปเล่นซ้ำอีก  แต่ขอแนะนำให้มาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระในช่วงหน้าฝนนะ น้ำจะเยอะและสวยงาม

การเดินทางไปเที่ยวน้ำตกถ้ำพระต้องเดินทางด้วยการนั่งเรือเข้าไปประมาณ 20นาที และเดินเท้าต่อไปอีก 300 เมตร ซึ่งจะก็บรรยากาศและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่สนุกไปอีกรูปแบบหนึ่ง

          น้ำตกที่นี่มี 3 ชั้น โดยชั้นที่ 1 จะมีพุทธรูปประดิษฐานไว้บนหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวมากราบสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล

จ.บึงกาฬ
จ.บึงกาฬ

4.น้ำตกเจ็ดสี

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 4 เราจะพาคุณไปตามหาสายรุ้งกัน น้ำตกเจ็ดสีตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ที่นี่เป็นน้ำตกตื้นๆที่สามารถนั่งพักผ่อนแช่น้ำได้  เหมาะกับการมาเล่นน้ำให้ชื่นฉ่ำ แถมยังมีhighlight เด็ดคือ จะเห็นสายรุ้งที่เกิดจากละอองน้ำกระทบจากแสงแดดให้ได้ชมอีกด้วย

          น้ำตกเจ็ดสีมีทั้งหมด 4 ชั้น และถ้าเดินขึ้นมาถึงชั้นที่ 4 ก็จะพบกับความอลังการของผาหินสูงประมาณ 13 เมตร ที่มีน้ำตกตกลงมาอย่างสวยงาม และสามารถเดินไปเล่นน้ำโดยให้น้ำตกลงมากระทบชุ่มฉ่ำกายใจได้เลย

จ.บึงกาฬ
จ.บึงกาฬ

5.ภูวัว  

ซึ่งในเขตพันธุ์รักษาสัตว์ป่าภูวัวนี้ เป็นพิกัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ กางเต้นท์นอนดูดาวยามค่ำคืนกันจำนวนมาก ซึ่งการเดินป่าต้องใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่าๆ โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่ที่ทำการรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และจุดสิ้นสุดอยู่ที่ลานหินอเมริกา ตลอดเส้นทางกะเจอกับพันธุ์ไม้นานาชนิด น้ำตก จุดนั่งชมวิวผานางคอย

และผ่านป่าไผ่ก่อนจะถึงลานหินอเมริกาซึ่งเป็นจุดกางเต้นท์ แต่ที่ต้องเตรียมตัวคือ ระหว่างทางจะเจอกับความลื่น ดังนั้นจึงควรใส่รองเท้าที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะพื้นจะดีที่สุด เพราะเนื่องจากเส้นทางที่เดินป่าจะพบกับก้อนหินที่มีตะใคร่น้ำเกาะ แต่รับประกันว่าถ้าได้มากางเต้นท์ที่ภูวัวสักคืนบนลานหินอเมริกา เพื่อนๆจะได้ชาร์ตพลังจากธรรมชาติกลับไปอย่างเต็มอิ่มอย่างแน่นอน

และทั้งหมดคือ 5 สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬ ไม่

ธรรมดาเลยใช่ไหม โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขา น้ำตก  ดังนั้นถ้าเพื่อนๆมีเวลาและโอกาสมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเมื่อไหร่ อย่าลืมจัดโปรแกรมไปท่องเที่ยวเที่ยวที่บึงกาฬกันด้วยนะ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com