ถึงแม้สถานการณ์โควิดจะยังไม่คลี่คลาย แต่เราต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ในรูปแบบnew normalให้ได้ คนกรุงเทพฯที่มีเวลาน้อยสามารถไปหาเวลาพักผ่อนหย่อนใจได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไกล ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย วันนี้เราจะพาคุณไปท่องเที่ยวคลายลมร้อนต้อนรับเดือนเม.ย.เอาใจคนรักธรรมชาติ สายทำบุญไหว้พระ สายกิน

Cr.pic; https://travel.kapook.com/

  1.   ล่องเรือคายัคเที่ยวคลองจินดา

       คลองจินดา ย่านเมืองสามพราน เดิมทีเป็นคลองที่ผู้คนนิยมใช้ในการสัญจร แต่ปัจจุบันใช้รถยนต์ในการสัญจรมากขึ้น คลองจินดา ถือเป็นอีกคลองหนึ่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากเลย พร้อมให้คุณสัมผัสวิถีชีวิตริมฝั่งน้ำขณะลอยเรือคายัค ค่าล่องเรือคายัคก็ราคาไม่แพง พานเรือคายัค

Cr.pic; https://travel.kapook.com/

   2.    สวนน้ำชุมชนบ้านคลองแค

          สวนน้ำทะเลกรุงเทพฯ เหมาะสำหรับมาเที่ยวพร้อมครอบครัว ให้คุณย้อนยุคกลับไปวัยเยาว์ ได้ลองเล่นเครื่องเล่นพื้นเมือง เล่นน้ำ มีเครื่องเล่นสไลเดอร์  ร่วมสังสรรค์กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง พร้อมทานอาหารร่วมกันแบบnew normal  เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์

Cr.pic; https://travel.kapook.com/

3. ตลาดน้ำกวางโจว

       หากใครมีโอกาสไปเที่ยวเมืองเพชรบุรี ไม่ควรพลาดตลาดน้ำที่เปิดโอกาสให้คุณได้ลิ้มลองรส ชาติใหม่ๆ ทั้งอาหารคาวหวาน ราคาย่อมเยาว์  บรรยากาศร่มรื่นด้วยความที่มีกอไผ่คอยให้ความร่มรื่น เหมาะกับการล่องเรือชมวิว พร้อมกับซื้อของกินระหว่างล่องเรือ หรือจะนั่งรับประทานอาหารพร้อมกับเพื่อนๆ บนแพไม้ไผ่พร้อมมีซุ้มบังลมบังแดด เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์   

Cr.pic; https://travel.kapook.com/

4.หาดทรายแก้ว

          หาดทรายแก้ว เป็นหาดทรายสีขาวนวล เม็ดทรายเนียนละเอียด เมื่อกระทบกับแสงแดดอ่อนๆและคลื่นทะเลกระทบหาดทรายแล้วทำให้หาดทรายเงาระยิบระยับ เป็นหาดทรายที่เงียบสงบและร่มรื่น   เหมาะกับสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจร่วมกับคนในครอบครัว นอกจากจะมาเล่นน้ำทะเล เล่นทราย หรืออาบแดดที่ชายหาดแห่งนี้แล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกไป เช่น พายเรือคายัค เล่นบานาน่าโบ๊ตร่วมกับเพื่อนๆและครอบครัวได้ ไม่มีเบื่อ และรอบชายหาดยังมีอาหารทะเลขาย รอนักท่องเที่ยวมาชิมฝีมือกันอยู่นะคะ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หาดทรายขาวแห่งนี้มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร

5. น้ำตกเอราวัณ

    น้ำตกเอราวัณ 7 ชั้น ณ จังหวัดกาญจนบุรี เหตุผลที่ทำให้น้ำตกเอราวัณจัดเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติบรรยากาศร่มรื่น ป่าเขียวขจี ภายในถ้ำมีหินปูนเป็นธรรมชาติอย่างสวยงามและน้ำตกเอราวัณแต่ละชั้นต่างมีชื่อเรียกที่เป็นเอกลักษณ์ น้ำตกแต่ละชั้นจะไหลลงมารวมกัน คล้ายกับศรีษะช้าง ซึ่งที่นี่มีที่พักนอนค้างคืนท่ามกลางธรรมชาติด้วย แต่ถ้าจองห้องพักไว้ภายในอาณาเขตของน้ำตกเอราวัณ ควรเข้ามาห้องพักก่อน 2 ทุ่ม

  แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวต่างมีจุดขายที่แตกต่างกัน ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วหล่ะว่าชอบแบบไหน และปัจจัยภายนอกอื่นๆทั้งเรื่องเวลา งบประมาณในการเที่ยวแต่ละ

ทริป ควรเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่คุมมาตราการโควิด-19 ที่เข้ามข้น และมีคนไปเที่ยวไม่แออัด ในช่วงlow seasons ยิ่งดีเพราะจะประหยัดค่าที่พักได้มากเลย

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

ดอยที่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงามและมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากๆ

แถมยังสามารถนอนชมแสงดาวที่ส่องแสงสวยงามในตอนกลางคืนได้อย่างแจ่มใสสวยงามชัดเจน

ด้วยบรรยากาศทัศนียภาพที่อบอุ่นในสายลมหนาว บทนี้จึงขอนำ 5 ดอยสวยงามน่าไปทั้งสายหมอก และแสงดาว มาฝากทุกคนกัน ใครอยากจะไปเที่ยวบนดอยกันแล้ว เราเดินทางไปด้วยกันเลย

1. ดอยกาดผี จังหวัดเชียงราย

ตั้งอยู่ภายในวนอุทยานดอยกาดผี ในความดูแลของสำนักงานบริหารป่าที่ 15 หรือสำนักงานป่าไม้เชียงราย ความสุขและความสงบจากธรรมชาติ ที่นี่มีให้เราแบบเต็ม ๆ ตระการตากับความสวยงามของธรรมชาติ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด นอนกางเต็นท์ท่ามกลางอากาศเย็น และแหงนหน้ามองท้องฟ้าและพระจันทร์ยามค่ำคืน นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกางเต็นท์ที่น่าสนใจ อยากให้ทุกคนได้ลองไปเที่ยวกันดู

ที่อยู่ : ตำบลห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

เบอร์โทรศัพท์ : 087 788 9856

เฟซบุ๊ก : วนอุทยานดอยกาดผี

2. ดอยตาปัง จังหวัดชุมพร

จุดชมวิวสวยๆของภาคใต้ ในตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสวย ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก นักท่องเที่ยวจะได้เห็นความงดงามของธรรมชาติในมุมส่วนตัวสุด ๆ เฝ้าชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน อาจจะมองเห็นทะเลหมอก และชมวิวเขาทะลุได้จากระยะไกล ทั้งนี้การขึ้นไปชมวิวที่ดอยตาปังขึ้นได้เฉพาะรถขับเคลื่อน 4 ล้อ และรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เกียร์ หรือนักท่องเที่ยวคนไหนไม่สะดวก ก็สามารถติดต่อผู้ใหญ่บ้านเพื่อใช้บริการรถของชาวบ้านได้เช่นกัน

ที่อยู่ : ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร

เบอร์โทรศัพท์ : ผู้ใหญ่ประเสริฐ 098 821 9831

3. ดอยนํ้างาว จังหวัดน่าน

อยู่ในเขตตำบลบ่อ อำเภอเมืองน่าน จากเดิมพื้นที่บนดอยแห่งนี้ มีลักษณะเป็นภูเขาหัวโล้น จากการตัดไม้ทำลายป่า หากแต่ในภายหลัง พื้นที่แห่งนี้ได้รับการดูแลและฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาสวยงามและสมบูรณ์อีกครั้ง ด้วยทำเลที่ตั้งที่สวยงาม บนยอดเขาสูงกว่า 820 เมตร มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้เกือบรอบ ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินได้สบาย ๆ ทะเลหมอกทั้งในฤดูฝนและหนาว อากาศโดยรวมเรียกว่าเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี ลองใครได้มาเที่ยวจะรู้เลยว่า ธรรมชาติของดอยน้ำงาวในวันนี้ สวยงามมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

ที่อยู่ : ตำบลบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

4. ดอยฟ้างาม จังหวัดลำปาง

ตั้งอยู่ที่บ้านสาแพะ ตำบลบ้านสา อำเภอแจ้ห่ม เป็นดอยสูงที่ล้อมรอบด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงาม สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ยังเป็นที่เที่ยวที่คนยังไม่รู้จักมากนัก โดยจุดชมวิวที่นี่มีลักษณะเป็นลานโล่งกว้าง ความสวยงามของทะเลหมอกยามเช้า พร้อมกับแสงอาทิตย์อุ่น ๆ ยามเช้า

ที่อยู่ : บ้านสาแพะ ตำบลบ้านสา อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง

เบอร์โทรศัพท์ : 086 429 6038

เฟซบุ๊ก : ดอยฟ้างาม บ้านสาแพะ ตำบลบ้านสา อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง

5. ดอยสวนยาหลวง จังหวัดน่าน

ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา การเดินทางมาเที่ยวที่ดอยสวนหลวงยา นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องติดต่อไกด์เจ้าถิ่น อย่าง พี่กริช ผ่าน เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ โดยพี่กริช จะทำหน้าที่เป็นทั้งไกด์และคนดูแลเราไปตลอดทั้งทริป ไม่แนะนำให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวเอง ด้วยเพราะเส้นทางขึ้นค่อนข้างลำบาก ทางเป็นหลุมลึก แคบและชัน ถ้าฝนตกก็จะยิ่งลำบาก ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้นอนพักบ้านพักแบบโฮมสเตย์ ได้กินอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ รวมถึงยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านที่แสนเรียบง่ายอีกด้วย

ที่อยู่ : หมู่บ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน

เบอร์โทรศัพท์ : 096 952 2223

เฟซบุ๊ก : ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ

นี่ก็คือ 5 ดอยสวยงามน่าไปทั้งสายหมอก และแสงดาว ที่นำมาฝากกัน ใครอยากจะเดินทางไปเที่ยวที่ดอยที่นำมาฝากนี้ ก็เดินทางไปตามช่องทางที่แนบไว้ให้ด้านบนกันได้เลย แล้วบทหน้าเรามาพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจที่จะไปสรรหามาฝากกันได้อีกในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง เราต้องมาติดตามกันต่อ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

เช็กอิน 5 ที่พักบนเขา เอาใจคนรักหมูกระทะ

เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวกันแล้ว ถ้าใครกำลังมองหาที่พักบนเขา ที่ห่างไกลผู้คนและใกล้ชิดกับธรรมชาติ ที่เป็นการเที่ยวแบบ social distancing แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ 5 ที่พักบนเขาสุดชิล เอาใจคนรักเมนูหมูกระทะกันไปเลย จะมีสถานที่ใดบ้างตามมาชมกันได้ รับรองว่าตอบโจทย์กับการท่องเที่ยวในช่วงยุคโควิด-19 แน่นอน

1.ม่อนวิวงาม แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่พักที่ตั้งอยู่บนเนินเขา บ้านพักแต่ละหลังไล่ระดับกันเรียงสวยงาม มีห้องพัก 5 แบบ แบบแรกเป็นบ้านพักโมเดิร์นเดี่ยวที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้เข้าพัก ซึ่งห้องพักเน้นใช้วัสดุที่เข้ากับธรรมชาติ ถัดไปเป็นบ้านโมเดิร์นแฝด บ้านพักหลังใหญ่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ที่เน้นโชว์งานไม้ สำหรับบ้านนี้จะมีห้องพัก 2 ห้องอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

เหมาะสำหรับคนที่มาเป็นกลุ่มใหญ่หรือเป็นครอบครัว ต่อมาเป็นบ้านอุ่นไอรัก บ้านพักสไตล์เรือนแถวตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ โชว์ผนังปูนเปลือยขัดมัน และห้องพักไฮไลท์คือ บ้านวิวดี บ้านพักที่ออกแบบให้เป็นบ้านสามเหลี่ยม ตั้งไล่ระดับเนินเขาแถมแต่ละหลังยังมีระเบียงส่วนตัวให้ได้นั่งชมวิวแบบส่วนตัว และใครที่มาจะพลาดไม่ได้กับหมูกระทะชุดใหญ่สำหรับ 4-5 คน เสิร์ฟพร้อมหมู ซีฟู้ดส์ และผักแบบจัดเต็มในราคา 700 บาท เท่านั้น ฟินสุดๆ

2.ม่อนหนาว มินิแคมป์ แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ใกล้กับ ม่อนแจ่ม และโครงการหลวงหนองหอยเป็นห้องพักขนาดกะทัดรัด ตกแต่งแบบเรียบง่าย เน้นความสะดวกสบาย และมีความสวยงามมาก อีกทั้งยังมีระเบียงพักผ่อนส่วนตัวหน้าบ้านเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามแบบ 360 องศากันเลยทีเดียว แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอีกมากมาย ทั้งยังมีกิจกรรมผจญภัยที่ท้าทายอย่าง flying Squirrels ให้เล่นและอิ่มอร่อยไปกับหมูกระทะร้อน ๆ พร้อมเครื่องดื่มเย็น ๆ ในบรรยากาศสบาย ๆ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ที่สำคัญราคาไม่แพงเลย

3.ม่อนซาน แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ม่อนซานมีที่พัก 5 แบบ ได้แก่ เต็นท์โดม บ้านไม้ไผ่ บ้านกล่องดำ บ้านกล่องไม้ และเต็นท์โดม ที่ทุกห้องมีระเบียงหน้าห้องพัก สามารถออกมานั่งเล่นชมวิวธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าได้อย่างเต็มปอด จุดเด่นที่นี่คือ ห้องพักเรียงรายบนไหล่เขาจึงทำให้เรามองเห็นวิวสวยๆ

ได้แบบเต็มตาเพราะที่นี่เป็นดอยสูง เรียกได้ว่าใครที่ชื่นชอบบรรยากาศแบบสงบๆต้องไม่พลาด และยิ่งสายหมูกระทะยิ่งต้องมา เพราะที่นี่มีอาหารเช้าให้ทานกันแบบฟรีๆ แถมมีหมูกระทะชุดให้ทานเข้ากับบรรยากาศแบบฟินๆกันไปเลย ราคาเพียง 450 บาท เท่านั้นเอง

4.ม่อนอิงดาว แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่พักบนเนินเขาบรรยากาศดีมาก และไฮไลท์ของที่นี่คือ เต็นท์โดมติดแอร์ ซึ่งเป็นเต็นท์ที่มีขนาดใหญ่กว้างขวาง มีห้องน้ำส่วนตัว แถมยังมีพื้นที่บนระเบียงส่วนตัวหน้าบ้าน สามารถสั่งอาหารมากินได้ชมบรรยากาศได้แบบฟินๆ กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์ และเต็นท์นอนให้บริการช่วงหน้าหนาวอีกด้วย ราคาเพียง 500 – 800 บาทเท่านั้นเองหรือใครที่นำเต็นท์มาเองก็จ่ายเพียง 150 บาท เป็นค่าสถานที่ และเมนูสุดฮิตบนดอยก็ไม่พ้นหมูกระทะ และเมนูอาหารจานเดียวที่คนนิยมทานอย่าง ชุดน้ำพริกหนุ่ม แคปหมู เสิร์ฟคู่ผักต้มฟินสุดๆ เรียกได้ว่าอากาศเย็นสบายในยามดึกออกมานั่งกินหมูกระทะฟินอย่าบอกใครเลยทีเดียว และไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้รูปกลับไปลงโซเชี่ยลเพราะที่นี่มีมุมให้ถ่ายมากมาย อย่างมุมแปลงดอกไม้ที่จะผลัดเปลี่ยนตามฤดูกาลรับรองปัง สวยอย่าบอกใครเลย

5.บ้านหว่าญ่า แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบ้านพักสไตล์โมเดิร์นกลางเขา มีห้องพักทั้งหมด 12 ห้อง แบ่งเป็น 3 แบบคือ บ้านกล่องเล็ก บ้านกล่องใหญ่ และบ้านหิน และยังมีส่วนกลาง ห้องอาหารให้นักท่องเที่ยวได้มานั่งทานอาหารได้แบบชิลๆ สามารถเลือกมุมนั่งได้และแต่ละมุมคือดีสุด อย่างระเบียงให้นั่งห้อยขาเรียกได้ว่าจะได้ทั้งฟินไปกับบรรยากาศและความอร่อยของอาหารจะคูณสิบเลย และที่พลาดไม่ได้กับชุดหมูกระทะที่จัดเต็มในราคาเพียง 500 บาทเท่านั้นเองแต่สามารถรับประทานได้ถึง 3 คน คุ้มสุดๆและใครที่อยากมาสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวม้งเรียกได้ว่าห้ามพลาด

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 ที่พักบนเขา เอาใจคนรักหมูกระทะ รับรองได้ว่าดีงามทั้งที่พัก บรรยากาศ และอาหาร แถมยังได้สูดโอโซนดีๆ เข้าอย่างเต็มปอด ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ในหนึ่งปีคุณควรออกไปปลดปล่อย พักกาย พักใจ ในการที่คุณทำงานหนักมาตลอดทั้งปี เอาเป็นว่า ใครโดนใจสถานที่ใดก็จดไว้ในลิสต์! แล้วตามมาเช็คอินกันได้เลย

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

โฮมสเตย์ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ ราคาไม่แรง

ฤดูหนาวใกล้เข้ามาแล้ว หลายคนวางแผนที่จะขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือกันแน่นๆ โดยเฉพาะการวางแผ่นไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งจังหวัดที่รัฐบาลจะทำการเปิดเมืองท่องเที่ยววันที่ 1 ตุลาคมนี่แล้ว  วันนี้เราจึงจะมาอัพเดทที่พัก ในโซนม่อนแจ่ม สถานที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมของเชียงใหม่ ด๔แล้วถูกใจที่ไหนจะได้รีบจองกันเนิ่นๆก่อนจะเต็ม เพราะต่างคนต่างก็อิ้นที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวกันมานาน ไปดูที่พักที่เราเอามาฝากกันเลย

         1.ม่อนสายลม ที่พักสไตล์สุดเท่ห์ที่ตั้งอยู่บนโลเคชันที่ดีที่สุดของยอดดอย แบะยังเป็นยอดดอยที่ล้อมด้วยภูเขารอบด้านที่นี่ทีที่พักเป็นเต็นท์กระโจมแบบ VIP สำหรับเข้าพัก 2 -4 ราคาเริ่มต้น 1,000-2,500บาทตกเย็น ฟินกันต่อที่หมูกระทะที่หน้าเต็นท์ และ ม่อนสายลมคอฟฟี่ร้านกาแฟวิวหลักล้านให้นั่งชมวิวกันอีกด้วย

         2.ม่อนอิงดาว รีสอร์ท มาพร้อมให้บริการคุณด้วยห้องพักบรรยากาศดี หลายแบบหลายสไตล์ ที่เพิ่มเพิ่มโซนเต็นท์โดม 29 หลังไปไม่นาน และโซนบ้านพักรูปแบบทันสมัย 9 หลัง สำหรับที่พักภายในเต็นท์ครบครันไปด้วยสิ่งอำนายความสะดวก ส่วนบ้านพัก 9 หลังก็ทั้งใหม่และสะอาด ยามเย็นได้ชมแสงพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม และแสงไฟจากม่อนอิงดาว ใครที่อยากได้ที่พักที่มีความสะดวกสบายได้อย่างเต็มที่  ที่นี่ตอบโจทย์แน่นอน

         3.ม่อนวิวงาม อีกหนึ่งที่พักของสถานที่ท่องเที่ยวม่อนแจ่มที่ตั้งอยู่บนเนินเขาส่วนตัว มีห้องพักหลากหลายรูปแบบแบบลดหลั่นกันลงไปตามเนินเขา มุมจากห้องพักสามารถมองเห็นวิวดอย และ แปลงผักขั้นบันไดที่สวยงาม ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 1,000-5,000 บาท ห้องพักที่มาแรงที่สุดคือ เต็นท์โดม ซึ่งเต็มอิ่มไปด้วยหมูกระทะยามเย็น ทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่ และมีโซนร้านอาหารให้เลือกอีกเพียบ มาเที่ยวม่อนแจ่มทั้งทีต้องห้ามพลาด

         4.แสงเหนือแคมปิ้งม่อนแจ่ม เป็นที่พักน้องใหม่ เปิดมาไม่ถึงปี สำหรับเต็นท์มีไว้บริการ 10 หลังไล่ระดับเป็นขั้นบันได  นอกจากเต็นท์แล้วและยังมีบ้านดินที่มีดีไซน์น่ารักอีก 2 หลัง ราคาที่พักเริ่มต้น 1,000-2390 บ้าน ไฮไลท์ของที่นี่คือแปลงดอกไม้สวยหน้าเต็นท์ ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานอนเต็นท์ และที่พักบ้านดินกันดูสักครั้งแล้วคุณจะประทับใจ

         5.ภูแสงเทียน เป็นอีกหนึ่งที่พักน้องใหม่ของม่อนแจ่ม ที่พักที่ให้อารมณ์แบบมินิมอล ของที่พักบนภูเขาของญี่ปุ่น มีแปลงผักที่สามารถลงไปเก็บผักมากินกับหมูกระทะได้ สำหรับตัวห้องพักแบ่งเป็น 2 แบบคือบ้านภูแสงเทียน กับเต็นท์กระโจม ทุกหลังหันหน้าสู่วิวภูเขาและยอดดอย ที่สามารถมองไปไกลถึงดอยหลวงเชียงดาวได้เลย ราคาที่พักอยู่ที่ 1,200 -3,000 บาท

         6. ม่อนซาน เป็นที่พักที่ตั้งอยู่ตรงข้ามวิวดอยม่อนแจ่ม ซึ่งเป็นโลเคชั่นหลักที่ใครมาแล้วต้องไปเช็คอิน ตัวบ้านมีให้เลือกถึง 4 แบบ คือบ้านกล่องไม้ บ้านกล่องดำ บ้านไม่ไผ่ และเต็นท์กระโจม และที่นี่ก็มีหมูกระทะเสิร์ฟอีกเช่นกัน ราคาที่พักเริ่มต้น 1,000-3,000 บาท

          ทั้งหมดคือที่พักในม่อนแจ่ม ทั้ง 6 สถานที่ ชอบใจที่ไหน เตรียมจองไว้หลวงหน้าเลยเชียว เพราะแต่ละที่พักมีจำนวนห้องพักไม่มากนัก จองช้าแล้วจะเสียใจเสียโอกาสเที่ยวกันเลยเชียว

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

คำขวัญจังหวัดเชียงใหม่ : ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผาชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์

เที่ยว จ.บึงกาฬ ไม่ไปไม่รู้ว่าอลังการกว่าที่คิด

จ.บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ 77 ซึ่งตั้งอยู่ทางภาตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย หลายคนคิดว่าคงไม่มีที่เที่ยวที่น่าสนใจ จึงไม่เคยวางโปรแกรมที่จะไปท่องเที่ยวที่จังหวัดนี้ ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนไปดุกันว่า บึงกาฬก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย บรรยากาศดี น่าประทับใจไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ จริงไม่จริงตามไปดูกันเลย

1.หินสามวาฬ

สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในกลุ่มท่องเที่ยว UNSEEN THAILAND จึงเป็นสานที่ท่องเที่ยวที่เป็น highlight ของจังหวัด ที่นี่เป็นโขดหินทรายขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬ แยกออกเป็น3 ก้อนขนาดลดหลั่นกันไป มองดูแล้วเหมือนปลาวาฬ พ่อแม่ลูกกำลังว่ายน้ำอยู่เคียงกัน สวยงามแปลกตามากๆเลยล่ะค่ะ

โดยหินสามวาฬ ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของภูสิงห์ พื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ถือเป็นจุดชมวิว และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงาม มองเห็นผืนป่าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา และมองเห็นแม่น้ำโขงได้อีกด้วย ซึ่งถ้าใครจะวะมาเที่ยวที่นี่ตอนหน้าฝนต้องสวมรองเท้าที่มีการยึดเกาะพื้นได้ดีจะได้เดินเที่ยวได้อย่างมั่นใจไม่ต้องกลัวลื่น

2.ภูทอก

เป็นสถานที่เที่ยวต่อมาก็ถือเป็นพิกัดห้ามพลาดของบึงกาฬที่ ที่เรียกว่าเป็น  Amazing Thailand เพราะเป็นเขาสองลูกมีขนาดเล็กใหญ่เชื่อมต่อกันอย่างสวยงามเสมือนงานปะติมากรรม ที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถือ เป็นศาสนสถาน แห่งหนึ่งเพราะมีวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรมอยู่บนภูทอก ซึ่งบนภูทอก

จะมีบันไดเวียนและมีสะพานไม้เวียนรอบๆเขา เพื่อเป็นทางพาไปยังจุดชมวิวและสถานปฏิบัติธรรม ณ วัดภูทอกที่ตั้งอยู่ด้านบนของภูทอกภูทอกนั้นมีทั้งหมด 7 ชั้น โดยชั้นที่คนนิยมขึ้นไปมากที่สุดคือชั้น 6 เพราะจะมีหน้าผายื่นออกออกไป สำหรับเป็นจุดชมวิว

แต่ถ้าใครที่อยากมานั่งสมาธิก็ให้ขึ้นไปได้ที่ชั้น 5 เพราะชั้น 5 จะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและเป็นกุฏิของพระสงฆ์ ที่ชั้นนี้ บรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการนั่งสมาธิและปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก

3.น้ำตกถ้ำพระ

เปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสความชุ่มฉ่ำกันที่น้ำตกถ้ำพระสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกสวยงาม ที่หลายคนมาเช็คอินน์กัน จุดเด่นของน้ำตกนี้ คือที่มีสไลเดอร์โขดหินแบบธรรมชาติให้ได้เล่นกัน   เรียกว่าใครได้ลองเล่นแล้วสนุกสุดๆ อยากจะกลับไปเล่นซ้ำอีก  แต่ขอแนะนำให้มาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระในช่วงหน้าฝนนะ น้ำจะเยอะและสวยงาม

การเดินทางไปเที่ยวน้ำตกถ้ำพระต้องเดินทางด้วยการนั่งเรือเข้าไปประมาณ 20นาที และเดินเท้าต่อไปอีก 300 เมตร ซึ่งจะก็บรรยากาศและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่สนุกไปอีกรูปแบบหนึ่ง

          น้ำตกที่นี่มี 3 ชั้น โดยชั้นที่ 1 จะมีพุทธรูปประดิษฐานไว้บนหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวมากราบสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล

4.น้ำตกเจ็ดสี

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 4 เราจะพาคุณไปตามหาสายรุ้งกัน น้ำตกเจ็ดสีตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ที่นี่เป็นน้ำตกตื้นๆที่สามารถนั่งพักผ่อนแช่น้ำได้  เหมาะกับการมาเล่นน้ำให้ชื่นฉ่ำ แถมยังมีhighlight เด็ดคือ จะเห็นสายรุ้งที่เกิดจากละอองน้ำกระทบจากแสงแดดให้ได้ชมอีกด้วย

          น้ำตกเจ็ดสีมีทั้งหมด 4 ชั้น และถ้าเดินขึ้นมาถึงชั้นที่ 4 ก็จะพบกับความอลังการของผาหินสูงประมาณ 13 เมตร ที่มีน้ำตกตกลงมาอย่างสวยงาม และสามารถเดินไปเล่นน้ำโดยให้น้ำตกลงมากระทบชุ่มฉ่ำกายใจได้เลย

5.ภูวัว  

ซึ่งในเขตพันธุ์รักษาสัตว์ป่าภูวัวนี้ เป็นพิกัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ กางเต้นท์นอนดูดาวยามค่ำคืนกันจำนวนมาก ซึ่งการเดินป่าต้องใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่าๆ โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่ที่ทำการรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และจุดสิ้นสุดอยู่ที่ลานหินอเมริกา ตลอดเส้นทางกะเจอกับพันธุ์ไม้นานาชนิด น้ำตก จุดนั่งชมวิวผานางคอย

และผ่านป่าไผ่ก่อนจะถึงลานหินอเมริกาซึ่งเป็นจุดกางเต้นท์ แต่ที่ต้องเตรียมตัวคือ ระหว่างทางจะเจอกับความลื่น ดังนั้นจึงควรใส่รองเท้าที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะพื้นจะดีที่สุด เพราะเนื่องจากเส้นทางที่เดินป่าจะพบกับก้อนหินที่มีตะใคร่น้ำเกาะ แต่รับประกันว่าถ้าได้มากางเต้นท์ที่ภูวัวสักคืนบนลานหินอเมริกา เพื่อนๆจะได้ชาร์ตพลังจากธรรมชาติกลับไปอย่างเต็มอิ่มอย่างแน่นอน

และทั้งหมดคือ 5 สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬ ไม่

ธรรมดาเลยใช่ไหม โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขา น้ำตก  ดังนั้นถ้าเพื่อนๆมีเวลาและโอกาสมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเมื่อไหร่ อย่าลืมจัดโปรแกรมไปท่องเที่ยวเที่ยวที่บึงกาฬกันด้วยนะ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com

จะว่าไปกรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ชีวิตที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอยู่รอบตัวแต่อาจจะต้องแลกมาด้วยกับที่เราต้องอยู่ท่ามกลางป่าคอนกรีต เมื่อได้เวลาออกเดินทางไปให้ธรรมชาติบำบัดอย่างแท้จริง และถ้าคุณเป็นสายชื่นชอบชาแล้ว ครั้งนี้จะพาไปดูถึงต้นชาจริงๆ ที่ “ไร่ชาฉุยฟง” จังหวัดที่อยู่เหนือสุดในสยามนั่นก็คือ…จังหวัดเชียงรายนั่นเอง แล้วที่นั่นเป็นแหล่งชาคุณภาพดีมากๆ เลยล่ะ

ไร่ชาฉุยฟงจะตั้งอยู่ที่อำเภอแม่จัน ไร่ชาฉุยฟงถือได้ว่าเป็นแหล่งปลูกชา ผลิตชาชั้นดีของบริษัทแห่งหนึ่งคือ บริษัทฉุยฟงที ถ้าใครอยากจะลองได้ทานชาเกรดพรีเมี่ยมของจริงแบบไม่ต้องกลัวโดนหลอกต้องมาที่นี่ ไร่ชาฉุยฟง เมื่อลงมาจากรถ สิ่งที่คุณจะได้เห็นคือ…ไร่ชาที่เขียวขจี ท่ามกลางฟ้าสีคราม บรรยากาศของภาคเหนือที่

มีลมพัดเย็นตลอด และการปลูกเป็นแบบขั้นบันไดทำให้มันออกมาได้สวยงามในตัวของมันเอง หันมองไปทางไหนคือสบายลูกตาของเรามาก ได้รับเอนเนอร์จีที่ดีจากธรรมชาติได้ดีและโดยตรง และถ้ามาที่ไร่ชาตอนเช้าจะเห็นภาพของคุณป้าเก็บใบชาหรือยอดอ่อนของใบชา ที่ไร่ชาฉุยฟงยังมีคาเฟ่ที่ชื่อว่า “ฉุยฟง ที คาเฟ่”

สามารถเข้าไปทานไปดื่มชาจากที่เก็บจากไร่ชาสดๆ ของหวานที่ขึ้นชื่อและน่าทานมากที่สุดของที่ฉุยฟง ที คาเฟ่คือ “ชาเขียว บานอฟฟี่” ไม่ต้องห่วงว่าชาเขียวที่ใช้ทำจะเป็นของปลอมหรือแต่งกลิ่นขึ้นมาหรือไม่ คาเฟ่ที่นี่ใช่ชาเขียวของจริงจากไร่ชาฉุยฟง ในส่วนของเครื่องดื่มเมนูที่ขายดีคือ ชาเขียวมัทฉะปั่น

จะได้รสชาติของชาเขียวและได้กลิ่นของชาได้อย่างเต็มที่ เมื่อเครื่องดื่มอร่อย ของหวานหวานได้ใจสายชาเขียว และวิวที่เขียวขจีตัดกับฟ้าสีครามคือเป็นอะไรที่…ฟินมาก ฟินระดับ 10/10  และด้วยความที่คาเฟ่นี้เปิดเป็นแบบ open air  ด้านบนของคาเฟ่จะเป็นลานกว้างที่ให้นักท่องเที่ยวเดินไปถ่ายรูปเล่นได้และถ้าคุณติดใจในรสชาติของชา

คุณจะสามารถซื้อชากับไปทำที่บ้านได้เหมือนกัน โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะซื้อชาไปแล้วจะถูกใจในรสชาติหรือเปล่า ทางร้านให้พนักงานสาธิตการชงให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมก่อนซื้อ ไฮไลต์ของไร่ชาฉุยฟงอีกอย่างคือ บริเวณจุดจอดรถ นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปแบบ 360 หรือแบบ พาโนราม่าได้ แล้วถ่ายออกมาสวยงามอย่างมาก

สำหรับใครที่เป็นสายชาเขียวต้องมาที่นี่ให้ได้ และใครที่อยากจะมาสัมผัสบรรยากาศของความเป็นไร่ชาอย่างเต็มที่ ขอแนะนำให้มาที่ไร่ชาฉุยฟง จังหวัดเชียงรายนะจ้าว ชาที่นี่กลิ่นหอมรัญจวนใจแต๊ๆ เลยจ้าว

ติดตามสถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com

คำขวัญจังหวัดเชียงราย : เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง

แม้ตอนนี้จะยังออกไปเที่ยวไหนยังไม่ได้ ต้องเก็บตัวอยู่บ้าน แต่คงไม่ผิดที่จะมโนว่าได้ไปเที่ยวผ่อนคลาย แบบเที่ยวทิพย์กันไปก่อน แบบได้ดื่มด่ำบรรยากาศของที่พักทิวทุ่งนา พาร่างกายไปสูดอากาศ พักผ่อนกับท้องทุ่งสีเขียว แล้วโควิดไปเมื่อไหร่ ค่อยไปเที่ยวกันจริงๆก็ได้นะ พร้อมแล้วไปเที่ยวทิพย์กันเลย

1.ที่พักแรก เป็นที่พักริมแม่น้ำโขงที่มีสะพานไม้ทอดยาวไปในทุ่งนาที่ “ ไร่แสงอรุณ”  อ.เชียงของ จ.เชียงราย เสน่ห์ของไร่แสงอรุณคือการ ผสมผสานการท่องเที่ยวเชิงเกษตร กับรีสอร์ทเพื่อสุขภาพ

ในส่วนของบ้านพักมีให้เลือกหลายโซน ทั้งวิวแม่น้ำโขง วิวป่าเขาเขียวขจี และวิวท้องนาที่มองเห็นแม่น้ำโขงอยู่ไกลๆ เป็นบ้านพักบนเนินเขา แต่ละหลังจะปลูกห่างจากกัน ซึ่งความสงบและเป็นส่วนตัวค่ะ ซึ่งสามารถไปเดินชมแปลงผักปลอดสารพิษ และท้องนา เกษตรอินทรีย์ได้ ถ้าใครมาพักที่นี่ตรงกับวันที่รีสอร์ทดำนา หรือเกี่ยวข้าว ก็สามารถร่วมกิจกรรมลงแปลงนา ถือต้นกล้าปักดำ รำเคียวเกี่ยวข้าวกันได้เลย

2.มาต่อกับที่พักฟาร์มสเตย์แสนอบอุ่นที่ “ อาสา ฟาร์มสเตย์” ที่พักสุด Slow Life ที่จังหวัดเชียงรายอีกแห่ง ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาถูกโอบล้อมไปด้วยนาข้าว  สวนยาง สวนลิ้นจี่ และไร่สัปปะรดบนพื้นที่ 100 ไร่  แถมยังอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนอีกด้วย

ในส่วนของห้องพัก ที่นี่ตกแต่งสไตล์เรือนไม้ทางภาคเหนือแบบประยุกต์มาพร้อมระเบียงกว้าง  เมื่อเปิดประตูออกไปก็จะพบทุ่งนาเขียวขจีอยู่ตรงหน้า เหมาะกับการหาวันว่างไปท่องเที่ยวชมความเขียวขจีและอากาศบริสุทธิ์อย่างมาก

3.จากเชียงรายขยับลงมาที่เชียงใหม่กันบ้าง ที่ทุ่งนาบรรยากาศฟาร์มสเตย์ในอำเภอแม่ริมที่ “ อยู่ดีกินดี ฟาร์มสเตย์” บ้านกลางทุ่งนาที่ถูกเนรมิตให้เป็นบ้านพักตากอากาศเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะและธรรมชาติที่แค่ได้เห็นก็ตกหลุมรักแล้ว

ในส่วนของบ้านพักมีทั้งหมด 8 หลัง แต่ละหลังก็ตกแจ่งแตกต่างกันไปหลากหลายสไตล์ มีทั้งบ้านดิน บ้านไม้และบ้านปูนที่เน้นโทนสีสันสดใส ตัดกับสีเขียวของทุ่งนา โดยใช้วัสดุก่อสร้างที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติให้มากที่สุด บรรยากาศรอบๆที่พักมองเห็นทุ่งนาสีเขียว มองเห็นภูเขาอยู่ไกลๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่น จนเหมือนเป็นบ้านหลังที่สองของนักเดินทาง

4.มาต่อกันที่โฮมสย์หลังเล็กของชาวเขาเชื้อสายปะกากะยอที่รายล้อมไปด้วยทุ่งนาและธรรมชาติอย่าง “แม่กลางหลวงฮิลล์” ในอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเราได้มาพักจะได้สัมผัสวิถีชีวิตที่ยังคงเรียบง่ายของของชาวเขา จนความวุ่นวายหายไปกับสายลม ที่นี่มีศาลาหลังใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขา ที่มองออกไปจะสามารถเห็นวิวทุ่งนาอันเขียวชอุ่มแสนสบายตาได้อย่างชัดเจน

ในส่วนของบ้านพักมีให้เลือกหลายขนาด จะมาแบบคู่รัก หรือครอบครัวใหญ่ก็สามารถรับรองได้ถึง 12 คน มีโอกาสลองไปสูดอากาศให้เต็มปอดกัน

          เป็นอย่างไรบ้าง อยากจะออกไปเที่ยวพักผ่อนกันแล้วใช่ไหมอดใจรอสักนิดก่อน เชื่อว่า

อีกไปนานเราคงได้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดทางภาคเหนือกัน เล็งๆกันเอาไปว่าชอบใจที่ไหน เมื่อไปได้จะได้ไปกันเลย

ติดตามสถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com

คำขวัญจังหวัดเชียงราย : เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง

คำขวัญจังหวัดเชียงใหม่ : ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์

ทริปนี้ขอเอาใจคนที่ชอบเที่ยวแนวธรรมชาติ เราจะชวนคุณหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองกรุงไปสัมผัสกับธรรมชาติที่สมบูรณ์และความอบอุ่นจากผู้คนที่นี่ รวมถึงใช้ชีวิตแบบ “Slow Life” ในแม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย มนเสน่ห์กลางหุบเขา อีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่ ดั้งนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าที่แม่กำปองได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่หลายคนตั้งใจว่าอยากจะมากันให้ได้สักครั้งในชีวิต

การเดินทางมาที่แม่กำปองสามารถมาได้ทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ ที่มีทั้งรถแดง-รถเหลืองโดยสามารถเช่าเหมาได้ หรือจะเดินทางโดยรถตู้สายแม่กำปองสามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งช้างเผือก ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มาประมาณ 1-2 ชั่วโมง แม่กำปองเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีทางคดเคี้ยว ลาดสูง-ต่ำอยู่ตลอดทาง ซึ่งสองข้างทางจะเต็มไปด้วยบ้านเรือนสไตล์ภาคเหนือของชาวบ้านที่มีทั้งที่เป็นแค่ที่พักอาศัยและเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านอาหาร โฮมสเตย์ รวมไปถึงคาเฟ่ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนแม่กำปอง

ถ้าจะพูดถึงคาเฟ่ในแม่กำปอง ที่นี่มีหลากหลายแห่ง อาทิ ลุงปุ๊ด&ป้าเป็ง คาเฟ่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นธรรมชาติ ตั้งอยู่ริมลำธาร มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มมากมาย, ระเบียงวิว ชื่อก็บ่งบอกถึงบรรยากาศการนั่งจิบกาแฟที่ริมระเบียง ด้านหน้าสามารถมองเห็นวิวสวยทั่วเมืองแม่กำปอง

ส่วนร้านอาหารพื้นเมืองที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นเดียวกัน แต่ซิกเนเจอร์เมื่อมาเยือนแม่กำปองคือ ร้านข้าวซอยกลอยใจ ด้วยรสชาติข้าวซอยพื้นเมืองแท้ๆ เครื่องแกงเข้มข้น ที่ใครมาก็ต้องไม่พลาด ร้านถัดมาคือ ร้านไส้อั่วแม่นิ่ม ของดีขึ้นชื่อแห่งแม่กำปอง ไส้อั่วหมักเครื่องเทศที่กลมกล่อม ย่างร้อนๆ หอมๆ ถ้าได้ทานกับข้าวเหนียวก็ยิ่งเพิ่มเลเวลความฟินได้ไม่รู้ลืม!

อีกหนึ่งร้านที่มีทั้งอาหาร คาเฟ่ และที่พักวิวสวยต้องไม่พลาดที่ “ม่อนตีนตก” ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้กับโครงการตีนตก จะมีทั้งโซนในร่มและด้านนอกสัมผัสบรรยากาศสุดฟิน และยังมีเมนูอาหารมากมาย เช่น ตำสตรอเบอร์รี่, ซี่โครงหมูอบ, สลัดเมล่อน, ผัดไท รวมไปถึงเครื่องดื่ม กาแฟดริป และขนมต่างๆ

ที่พักวิวสวยที่แม่กำปองที่ขึ้นชื่อ ก็จะมี “ฮิมดอยโฮม” สวยมากขอบอก! เพราะเป็นที่พักริมธารน้ำ ถ้าได้นอนฟังเสียงน้ำในลำธารไหลเอื่อยๆ คงจะมีความสุขจนไม่อยากกลับเลย

อีกหนึ่งที่พักเชียงใหม่ขึ้นชื่อแห่งแม่กำปองคงหนีไม่พ้น “บ้านป้อหลวงแม่หลวง” เป็นบ้านพักไม้หลังใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ ภูเขา และลำธารที่ไหลมาจากน้ำตกแม่กำปอง ส่วนห้องพักที่นี่ก็แสนอบอุ่นน่ารักเป็นกันเอง เหมือนมาพักบ้านญาติ

เห็นแบบนี้แล้วอยากหนีกรุงเทพไปนอนให้ธรรมชาติโอบกอด ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ค่อยๆ สัมผัสบรรยากาศรอบกายกลางหุบเขากันที่แม่กำปองแล้วหละสิ! อย่ารอช้า เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมสัมภาระให้พร้อม จัดคิวในชีวิตได้เมื่อไหร่แล้วเราไปกัน!

ติดตามสถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com

Cr.pic.: nichapachill /museumthailand / retty /kapook /tripadvisor/onews /zolitic /himdoihome/wongnai

คำขวัญจังหวัดเชียงใหม่ : ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์

“เชียงใหม่” นับเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีชื่อเสียง และเป็นจังหวัดลำดับต้นๆที่ต้องไปเยือน เพราะว่ามีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามน่าประทับใจอยู่มากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวด้านอารยธรรม และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แต่หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามเหล่านั้น มีแห่งหนึ่ง ที่อาจไม่ค่อยเป็นที่คุ้นหู หรือไม่ได้รับการโปรโมทมากนัก แต่รับรองได้ว่ามีความน่าประทับใจไม่แพ้ที่อื่นๆ เลย ที่แห่งนั้นก็คือ “ดอยค้ำฟ้า”

“ดอยค้ำฟ้า” เป็นพื้นที่ในความดูแลของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่งาย ตั้งอยู่ใน ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว ซึ่งไม่ได้ตั้งอยู่บนถนนเส้นหลัก และไม่มีป้ายบ่งบอกว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งโดยทั่วไป พื้นที่อนุรักษ์ของหน่วยจัดการต้นน้ำ จะไม่ได้ถูกพัฒนาให้เป็นที่เที่ยวโดยตรง หรือมีความสะดวกสบายมากเท่ากับอุทยานแห่งชาติ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม่ที่นี่จึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก

ความน่าสนใจของดอยค้ำฟ้าคือ เป็นแหล่งป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์มาก และยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยไฮไลท์ของดอยค้้ำฟ้า เป็นทะเลหมอกสีขาวสะอาดตา ที่ลอยปกคลุมไปตามทิวเขาสลับซับซ้อนที่ตั้งเรียงรายอยู่นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือยอด ดอยหลวงเชียงดาว ที่มีชื่อเสียงว่างดงามราวกับภาพวาด และยิ่งไปกว่านั้น หากมาเที่ยวในช่วงเดือนมกราคม ก็จะได้พบกับอีกหนึ่งไฮไลท์พิเศษของที่นี่ คือดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูหวาน ที่พร้อมใจกันบานสะพรั่งเพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยทีเดียว

ความงามของที่นี่ไม่ได้มีให้ดูแค่ตอนกลางวันเท่านั้น เพราะในช่วงกลางคืนยังมีลานกางเต็นท์ ให้ได้นอนดูดวงดาวที่ส่องสว่างอยู่เต็มท้องฟ้า

สมกับชื่อ ดอยค้ำฟ้า และ ณ จุดนี้ ก็ยังมองเห็นวิวของดอยหลวงเชียงดาวได้ด้วย เมื่อตื่นเช้ามาก็ชมพระอาทิตย์ที่ขึ้นตรงจุดนี้ได้เลย ไม่ต้องไปไหนให้เหนื่อย แค่เดินออกมานอกเต็นท์ก็ได้เห็นสวรรค์อยู่ตรงหน้าเราแล้ว

สำหรับใครที่ไม่ชอบการนอนเต็นท์ ที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่งายนี้ ก็มีที่พักแบบเรียบง่ายไว้รองรับนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน เป็นบ้านหลังใหญ่พักได้ไม่เกิน 15 คน  ภายในมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และยังมีห้องโถงกับห้องครัวที่ใช้ร่วมกัน มีเครื่องนอนให้พร้อม แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะ ส่วนไฟฟ้าก็ใช้ได้แค่ช่วง 6 โมงถึง 3 ทุ่มเท่านั้น ส่วนอาหารและน้ำต้องเตรียมกันมาเอง เพราะที่นี่ไม่มีร้านขายอาหาร

ถึงแม้จะไม่สะดวกสบาย แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคุ้มค่าสุดๆ คือการได้สูดโอโซนบริสุทธิ์ ได้สัมผัสอากาศเย็นสบาย ได้ฟังเสียงลม เสียงนก เสียงต้นไม้ ทุกสิ่งล้วนมอบพลัง ความสดชื่น สบายตา สบายใจ และสำหรับใครที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ที่นี่นับว่าเหมาะที่สุด เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวมากเหมือนที่อื่นๆ มาแล้วต้องหลงรักหัวปักหัวปำอย่างแน่นอนเชียวหล่ะ

#เที่ยวภาคเหนือ #tiewkanna.com #เที่ยวกันนะ #เที่ยวเชียงใหม่

คำขวัญจังหวัดเชียงใหม่ : ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์