Categories
เที่ยวภาคอีสาน

“ภูห้วยอีสัน” ที่เที่ยวลับเมืองหนองคาย จุดชมวิวทะเลหมอกได้แบบ 360 องศา

               วันนี้เราจะพาทุกคนไปตะลุยแดนอีสาน ค้นหาที่เที่ยวลับเมือง หนองคาย นั่นก็คือ จุดชมวิวทะเลหมอก ภูห้วยอีสัน ที่ต้องบอกว่ายังมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมาย ทั้งธรรมชาติสวยงามริมน้ำโขง และวัฒนธรรมที่น่ารักของคนในท้องถิ่น รับรองว่าต้องประทับใจกันอย่างแน่นอน 

           ภูห้วยอีสัน ตั้งอยู่ในเขตตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ถือเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกได้แบบพาโนรามา คือ สามารถมองเห็นธรรมชาติที่สวยงามไปไกลสุดลูกหูลูกตา และเมื่อทอดสายตาลงด้านล่างก็จะเห็นวิวของแม่น้ำโขงซึ่งกำลังไหลผ่านลงไปตามทิวเขา เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้าก็ยิ่งสวยงามราวกับภาพในฝันเลยทีเดียว 

                หากใครจะมาเที่ยวชมวิวที่นี่ ขอแนะนำให้มาในช่วงเช้ามืดจะดีที่สุด โดยกะเวลาให้มาถึงจุดชมวิวในช่วงที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น เพราะจะเกิดภาพไฮไลท์ที่งดงามที่สุด คู่ควรแก่การกดชัตเตอร์อย่างที่สุด และควรค่าที่สุดหากจะเก็บภาพนี้ไว้ในความทรงจำ โดยแสงทองของพระอาทิตย์จะตกกระทบลงพาดทะเลหมอกอย่างสวยงาม ใครที่เป็นสายกรีน สายธรรมชาติ ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด

                ต้องบอกไว้ก่อนว่า การเดินทางขึ้นไปบนภูห้วยอีสันนั้นไม่สามารถใช้รถส่วนตัวขึ้นไปได้ จะต้องไปขึ้นรถอีแต๋นของชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้ๆ ทางขึ้นภู โดยให้สังเกตป้ายที่เขียนว่า รถขึ้นจุดชมวิว ส่วนอัตราค่าบริการนั้นจะไม่แน่นอน ขึ้นลงตามช่วงเทศกาล 

แต่เชื่อเถอะว่าการนั่งรถอีแต๋นขึ้นไปบนภูนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ และสนุกสนานมาก เพราะระหว่างทางขึ้นจะมีป่าให้ได้ชมไปตลอดทาง บรรยากาศก็สดชื่น รถอีแต๋นจึงถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของภูห้วยอีสันเลยก็ว่าได้

           จุดชมวิวบนภูห้วยอีสันจะมีด้วยกัน 2 จุด โดยจุดแรกคือจุดที่รถอีแต๋นมาจอดให้นักท่องเที่ยวลง จะมีลานชมวิวยื่นออกมา มีจุดถ่ายรูปสวยๆ และยังมีร้านขายของเล็กๆ สำหรับใครที่อยากหาของกินรองท้องอย่างกาแฟ โกโก้ และบะหมี่ถ้วย ถือเป็นการจิบกาแฟชมวิวที่ได้ฟีลไปอีกแบบ 

               ส่วนจุดที่ 2 จะอยู่สูงขึ้นไปอีกหน่อย ต้องเดินขึ้นไปอีก 200 เมตร แต่สามารถมองเห็นวิวได้แบบกว้างขวางและสวยงามตราตรึงใจกว่าจุดแรกมาก จึงเป็นจุดชมวิวยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวมักจะมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นกัน ใครที่เป็นสายรักธรรมชาติ รับรองว่ามาแล้วจะต้องหลงรัก ภูห้วยอีสัน อย่างแน่นอน 

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลางภาคเหนือภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน 

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว วัดเรืองแสง อัศจรรย์แห่งแรงศรัทธา

                  อุบลราชธานี จัดว่าเป็นจังหวัดใหญ่น่าเที่ยวจังหวัดหนึ่งแห่งภาคอิสาน เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย หลากหลาย ทั้งแหล่งธรรมชาติ และมรดกทางวัฒนธรรม วันนี้เราเลยจะพาสายบุญไปสักการะวัดสวยที่มีชื่อว่า วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่หลายๆ คนเรียกกันว่า วัดเรืองแสง

                วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า วัดภูพร้าว หรือ วัดเรืองแสง ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงในอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ความพิเศษคือ ได้มีการจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์ หรือ เขาไกรลาศ มาไว้ที่นี่ โดยบนยอดเขาเราจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทองโดดเด่นงดงาม และด้านหลังของอุโบสถจะเป็นงานจิตรกรรมเรืองแสงสีเขียวของต้นกัลปพฤกษ์ ซึ่งในเวลากลางคืนจะสวยงามมากๆ โดยต้นไม้เรืองแสงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่องอวตาร เป็นการใช้สารเรืองแสง หรือ สารฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งจะรับแสงอาทิตย์ในตอนกลางวัน แล้วฉายแสงออกมาในตอนกลางคืน ขอแนะนำให้ไปในคืนเดือนมืด เพราะยิ่งมืดเราก็จะยิ่งเห็นการเรืองแสงของต้นกัลปพฤกษ์และดวงดาวได้ชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง

  

                 ในส่วนของตัวอุโบสถนั้น มีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว เสาแต่ละต้นลงลวดลายด้วยมืออย่างประณีต รอบนอกเป็นลายดอกบัวและสัตว์ต่างๆ ตามคติบัว 4 เหล่า หัวใจหลักคือ การนำเสนองานศิลปะที่เกิดจากความสงบ ความเพียร ความอดทน และวิสัยทัศน์ อย่างแนวคิดการจำลองให้วัดเป็นเขาพระสุเมรุ ตรงกลางของพระอุโบสถเป็นที่ตั้งของพระประธาน พร้อมกับได้ทำฉากหลังเป็นต้นโพธิ์

               นอกจากความงดงามอันน่ามหัศจรรย์ของพระอุโบสถแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวที่สวยงามด้วย ซึ่งเป็นวิวของแม่น้ำโขง และทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาว สามารถมองเห็นด่านสากลช่องเม็กได้อย่างสวยงาม รวมถึงอ่างเก็บน้ำที่อยู่บริเวณเชิงเขา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตก จะมองเห็นเป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจมากๆ

               ด้วยวัดแห่งนี้ผู้ริเริ่มคือ ท่านพระอาจารย์บุญมาก ซึ่งเป็นคนฝั่งลาวจำปาสัก ได้เข้ามาเผยแพร่อบรมสมาธิทางฝั่งไทย และได้ปักกลดอยู่ที่ภูพร้าวตั้งแต่ปี 2497 เมื่อปี 2498 ท่านก็ได้กลับไปยังประเทศลาว จนกระทั่งปี 2542 พระครูกมล ลูกศิษย์ของท่านก็ได้บูรณะให้กลับมาเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมเช่นเดิม จนถึงปัจจุบัน

               แนะนำว่าหากต้องการเก็บภาพความงามของวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว แนะนำให้นำกล้องถ่ายรูปไปด้วย เพราะถ้าถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถือ จะได้ภาพเรืองแสงที่สวยน้อยกว่า ถ้ามีโอกาสได้ไปอุบลฯ ก็อย่าลืมไปชมความสวยงามของวัดแห่งนี้กันให้ได้

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลางภาคเหนือภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน 

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

“จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม” ที่เที่ยวสวยหน้าหนาว

               สำหรับที่เที่ยวส่งท้ายปลายปีต้อนรับหน้าหนาวแบบนี้ บอกเลยว่ามีที่ห้ามพลาดแห่งหนึ่งนั่นก็คือ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม นครราชสีมา ฟาร์มกว้างท่ามกลางธรรมชาติสวย พร้อมด้วยการต้อนรับตามแบบวัฒนธรรมอีสาน เตรียมตัวเตรียมใจมาม่วนหลายกันได้เลย ถ้าไม่เชื่อก็ลองตามมาดูว่าที่นี่เค้ามีอะไรไว้ต้อนรับบ้าง

ดอกไม้และทุ่งนา
สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้หากมาที่นี่ก็คือ การแวะชื่นชมความงามและเก็บภาพอันน่าประทับใจของ ทุ่งดอกคอสมอส ตัดกับสีเขียวขจีของภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง และสีฟ้าสดใสแจ่มจ้าของท้องฟ้าหน้าหนาว พร้อมกับเดินชม ทุ่งนา ของจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ที่มีการปลูกข้าวสลับเลเยอร์ระหว่างต้นข้าวรวงสีเหลืองทองและรวงสีม่วงดำ

หมู่บ้านอีสาน และนิทรรศการหม่อนไหม
สำหรับใครที่ชื่นชอบวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน เตรียมยิ้มรอไว้ได้เลย เพราะที่นี่เค้าเนรมิตหมู่บ้านอีสานไว้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรม เราสามารถเดินสำรวจ และเรียนรู้เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกันของบ้านแต่ละหลังได้เลย นอกจากนี้ก็มีการทอผ้าไหม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสานที่ จิม ทอมป์สัน ได้ช่วยอนุรักษ์ สืบสานและร่วมพัฒนา เราจะได้เรียนรู้ขั้นตอนการผลิตผ้าไหมที่มีเอกลักษณ์ของจิม ทอมป์สัน ตั้งแต่ต้น เริ่มด้วยการเพาะพันธุ์หนอนไหม เลี้ยงหนอนไหม สาวไหม เข็นฝ้าย ย้อมสี ไปจนถึงการทอเส้นไหมให้กลายเป็นผืนผ้าสวยงาม

กิจกรรมเวิร์กชอป และกิจกรรมทอล์ก
นอกจากการได้เรียนรู้ และซึมซับวัฒนธรรมอีสานกันแล้ว จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ยังเปิดให้ทุกคนได้เข้าร่วมทำเวิร์กชอปด้วย ไม่ว่าจะเป็น การสาวเส้นไหม เข็นฝ้าย ทอผ้าไหม ปั้นเซรามิก รวมไปถึงเวิร์กช็อปทำขนมงานบุญในประเพณีอีสาน สำหรับใครที่ชอบฟังเรื่องดีๆ มีสาระ ก็สามารถมาล้อมวงฟังเรื่องเล่าจากเหล่าบรรดาวิทยากรที่จะแวะเวียนมาแบ่งปันเรื่องราววิถีชีวิตชาวอีสานแบบเจาะลึกกันเป็นประจำทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เช่น เรื่องข้าวที่คนอีสานปลูก ความทรงจำเกี่ยวกับคนอเมริกัน-อีสาน และความเชื่อต่างๆ ของคนท้องถิ่นอีสาน

ร้านอาหาร และของที่ระลึก
มาเที่ยวจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ไม่ต้องห่วงว่าจะหิว เพราะที่นี่เค้าคัดสรรร้านอาหารมาเสิร์ฟเมนูอร่อยๆ ให้กับคนที่มาเที่ยวกันด้วย ซึ่งก็ไม่ได้มีแต่อาหารอีสานเท่านั้น ยังมีอาหารแบบอื่นๆ อีก และสำหรับสายช้อป ก็มีร้านขายสินค้าจากฟาร์มในราคาพิเศษ และของที่ระลึกที่ซื้อได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น

                 ลมหนาวเริ่มพัดผ่านมาให้ได้รู้สึกเย็นๆ ผิวกันบ้างแล้ว หากใครยังไม่รู้จะไปเที่ยวรับลมหนาวที่ไหน ก็ลองไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่ฟาร์มแห่งนี้กันได้

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลางภาคเหนือภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน 

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

“น้ำตกถ้ำใหญ่” อัญมณีที่ซ่อนอยู่ในภูกระดึง

             น้ำตกถ้ำใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจี และภูมิทัศน์ที่น่าหลงใหล ด้วยความงดงามของสายน้ำใสสะอาด ที่ไหลลดหลั่นลงมาจากหน้าผาสูงชัน นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สะกดจิตผู้มาเยือนได้อย่างน่าทึ่ง

                 น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ถือเป็นหนึ่งในอัญมณีที่ซ่อนอยู่ในจังหวัดเลย เป็นน้ำตก 3 ชั้นซึ่งให้ทัศนียภาพที่สวยงาม เมื่อเข้าไปใกล้ๆ จะได้รับการต้อนรับด้วยเสียงน้ำที่ไหลเอื่อย และไอเย็นที่ลอยอยู่ในอากาศ ช่วยให้รู้สึกสงบเย็น เป็นการหลีกหนีความวุ่นวายในชีวิตประจำวันมาพบกับความสดชื่นอย่างแท้จริง

                 น้ำตกชั้นที่ 1 มีความสูงประมาณ 30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดใน 3 ชั้น และด้วยแรงมหาศาลของน้ำ เมื่อตกกระทบกับโขดหินเบื้องล่าง จึงทำให้เกิดเสียงก้องไปทั่วผืนป่าโดยรอบ ถัดไปชั้นที่ 2 จะมีบรรยากาศที่เงียบสงบมากขึ้น พร้อมมีสระน้ำตื้นที่สามารถลงเล่นน้ำและผ่อนคลายได้แบบสบายๆ ส่วนชั้นที่ 3 เปรียบเสมือนเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ เพราะเมื่อเดินผ่านป่าทึบเข้าไป ก็จะได้พบกับโอเอซิสอันเงียบสงบ ให้เราได้ดื่มด่ำไปกับความงามของธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์แบบ เพราะไม่ค่อยถูกรบกวนจากโลกภายนอก

                นอกจากความสวยงามอันน่าทึ่งของน้ำตกแล้ว ที่นี่ยังเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสัตว์ป่าอีกด้วย ทั้งผีเสื้อหลากสีที่โบยบินไปมาอยู่รอบๆ และเสียงร้องของเหล่าบรรดานกที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ และหากโชคดี ก็อาจได้เห็นสัตว์ป่าหายาก อย่างลิง หรือ กวางบางชนิด

               สำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัย พื้นที่รอบๆ น้ำตกถ้ำใหญ่ ยังมีเส้นทางเดินเขากระจายอยู่โดยรอบ ทำให้สามารถสำรวจระบบนิเวศที่หลากหลายของอุทยานได้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นสายนักเดินป่าที่ช่ำชอง หรือคนรักธรรมชาติแบบสบายๆ ก็มีเส้นทางสำหรับทุกคน

โดยในขณะที่เดินจะได้รับรางวัลเป็นทิวทัศน์อันน่าทึ่ง ซึ่งจะทำให้ทุกคนต้องทึ่งกับการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ และหากต้องการดื่มด่ำกับความงามของน้ำตกถ้ำใหญ่อย่างเต็มที่ แนะนำให้ไปในช่วงฤดูฝน เพราะเมื่อน้ำมาก การไหลของน้ำจะแรง จนเกิดเป็นภาพน่าประทับใจที่ยากจะลืมเลือน

              น้ำตกถ้ำใหญ่ เปรียบเป็นสวรรค์ที่ซ่อนเร้นอยู่ในธรรมชาติ เหมาะเป็นที่หลีกหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่ผู้ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบ ที่นี่คือจุดหมายปลายทางที่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์และกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้อย่างแน่นอน ดังนั้น เก็บกระเป๋า สวมรองเท้าปีนเขา แล้วออกเดินทางกันได้เลย

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลางภาคเหนือภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน 

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

ชี้เป้าปราสาทหินน่าเที่ยว แห่งเมืองสุรินทร์

           จังหวัด สุรินทร์ ถิ่นเมืองช้าง ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยวแดนอิสานใต้ ที่ควรต้องลองไปเที่ยวชมกันให้ได้สักครั้ง ด้วยความงดงามของโบราณสถานต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะ ปราสาทหิน ที่ไม่ว่าใครได้พบเห็น ต่างก็ต้องทึ่ง และวันนี้เราจะพาไปดูกันว่าที่นี่เค้ามีปราสาทหินอะไรน่าสนใจบ้าง

ปราสาทตาเมือนธม
โบราณสถานขึ้นชื่อของสุรินทร์ คือ กลุ่มปราสาทตาเมือน ที่มี ปราสาทตาเมือนธม เป็นหนึ่งในนั้น โดยเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม และมีศิวลึงค์ที่ตกแต่งมาจากแท่งหินทรายธรรมชาติประดิษฐานอยู่ ซึ่งภายหลังได้มีการสร้างปราสาทมาครอบไว้นั่นเอง ใครชื่นชอบชมโบราณสถานเก่าแก่ ก็ลองมาเยือนที่นี่กันดูได้

ปราสาทศีขรภูมิ
เป็นอีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานกว่าพันปี เป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมขอมโบราณสมัยนครวัด มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปราสาทระแงง ซึ่งแต่ก่อน ที่นี่น่าจะเป็นเทวสถานเพื่อบูชาพระศิวะ เทพเจ้าในศาสนาฮินดู โดยมีลักษณะเด่น คือ ปรางค์ 5 องค์ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลง และ ภาพสลักนางอัปสรถือดอกบัว ที่คล้ายกับนครวัด ในประเทศกัมพูชา

ปราสาทบ้านพลวง
เป็นศาสนสถานที่สร้างจากหินทรายสีขาวบนฐานศิลาแลง และมีคูน้ำรูปตัวยูล้อมรอบ ซึ่งสร้างขึ้นตามแบบศิลปะบาปวน โดยแผนผังปราสาทจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ว่ากันว่าน่าจะตั้งใจสร้างให้มีปราสาท 3 องค์อยู่บนฐานเดียวกัน แต่น่าจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเสียก่อน เลยทำให้การสร้างปราสาทชะงักไป เหลือเพียงเท่าที่เห็น แต่ก็ยังคงมีความงดงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภาพแกะสลัก ที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวของเทพปกรณัมในลัทธิไศวะนิกาย

ปราสาทช่างปี่
ปราสาทแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น อโรคยศาล แห่งหนึ่งในจำนวน 102 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของอาณาจักรขอมโบราณสร้างขึ้น โดยมีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่อด้วยศิลาแลง และหินทราย ทั้งยังมีการค้นพบโปราณวัตถุจำนวนมากที่นี่ด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งก็ได้มีการนำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุรินทร์ และอีกส่วนก็เก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านช่างปี่ ถือได้ว่าเป็นโบราณสถานที่สำคัญมากอีกแห่งหนึ่งของสุรินทร์

ศาลหลักเมืองสุรินทร์
นอกจากปราสาทต่างๆ แล้ว ศาลหลักเมืองจังหวัดสุรินทร์ ก็ถือได้ว่างดงามอลังการไม่แพ้กัน โดยเป็นศาลหลักเมืองสวยๆ ที่มีการออกแบบผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเขมร และศิลปะแบบไทยเข้าด้วยกัน เกิดเป็นศาลหลักเมืองที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ อีกทั้งในอดีตยังเคยมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น คือ มีรอยแยกบนพื้นถนน ทำให้มีการขุดลงไปพบพระพุทธรูปนาคปรก และวัตถุโบราณต่างๆ มากมาย ทั้งพระเครื่องดินเผา ภาชนะดินเผา และกำไลโบราณ

              ใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวในจังหวัดแถบอิสานใต้ หากมีโอกาส อย่าลืมแวะเที่ยวชมโบราณสถานสวยๆ ในจังหวัดสุรินทร์กันนะ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

“อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย” ที่เที่ยวชมทะเลหมอกหน้าฝน จังหวัดเลย

                พอเข้าหน้าฝนแบบนี้แล้ว ที่เที่ยวยอดฮิตที่สามารถชมทะเลหมอกหน้าฝนได้ ย่อมเป็นที่เที่ยวมาแรงอย่างแน่นอน วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ที่มีจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามอลังการมากๆ แห่งหนึ่ง ลองตามมาดูกันเลยดีกว่า

               อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ตั้งอยู่ใน ต.แสงภา อ.นาแห้ว จ.เลย ครอบคลุมพื้นที่กว่าเจ็ดหมื่นไร่ มีสภาพเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน และผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์มากๆ โดยสภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้น และมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายตลอดปี ยิ่งในช่วงหน้าหนาว อากาศจะยิ่งหนาวเย็น จนเกิดเป็นทะเลหมอกที่สวยงามอลังการในช่วงเช้าให้ได้ชมกัน

              นอกจากนี้ ก็ยังมีบรรยากาศฟินๆ ของพระอาทิตย์ตกที่ จุดชมวิวภูหัวฮ่อม อีกด้วย ซึ่งที่นี่ถือเป็นจุดชมวิวยอดฮิตของ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย นักท่องเที่ยวสามารถมาชมทะเลหมอกได้ในช่วงปลายๆ ฤดูฝน หรือประมาณเดือนกันยายน ไปจนถึงตุลาคม ก็จะได้เห็นวิวทะเลหมอกที่สวยสุดๆ ส่วนในหน้าหนาวนั้น ก็จะได้สัมผัสอากาศหนาว และยังได้ชมทะเลหมอกไปพร้อมๆ กัน

              ที่นี่เรายังสามารถมองเห็นเทือกเขาที่เป็นพรมแดนไทยลาวได้แบบชัดเจน ซึ่งที่จุดชมวิวก็จะมีป้ายบอกให้รู้ด้วยว่าภูเขาลูกต่างๆ นั้น ชื่ออะไรกันบ้าง ด้านซ้ายมือก็ยังมองเห็นยอดตีน ภูสวนทราย อีกด้วย ส่วนด้านขวา คือ เนิน 1428 ที่เคยมีประวัติความขัดแย้งทางพรมแดน หรือที่เรียกว่า สมรภูมิร่มเกล้า เมื่อหลายปีก่อนนั่นเอง และในเมื่อบรรยากาศดี วิวสวยขนาดนี้ ที่จะขาดไม่ได้เลยก็คงจะเป็น ลานกางเต็นท์ เพื่อได้ชมบรรยากาศขุนเขาอย่างใกล้ชิด

              นอกจากจุดชมวิวสวยๆ ที่นี่ยังมีน้ำตกมากมายให้ได้เล่นน้ำด้วย ทั้งน้ำตกตาดเหือง น้ำตกตาดภา น้ำตกวังตาด น้ำตกคิ้ง น้ำตกผาค้อ และก็ยังมีที่เที่ยวอื่นๆ อีก เช่น เส้นทางดูนกภูสวนทราย และหินสี่ทิศ เป็นต้น เรียกว่าอาจต้องมีเวลาเที่ยวกันถึงสามวันสามคืนถึงจะเก็บให้หมดทุกที่

               สำหรับการเดินทางมายัง อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย จาก อ.ด่านซ้าย จ.เลย ให้ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 2113 (ด่านซ้าย-นาแห้ว) แล้วขับตรงไปประมาณ 32 กิโลเมตร แต่ถ้ามาจาก อ.นาแห้ว ให้ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 1268 ขับไปประมาณ 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวามือเข้าไปยังที่ทำการ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย

               ใครที่กำลังจะหาที่เที่ยวชมวิวทะเลหมอกในช่วงหน้าฝน อย่าลืมปักหมุดมาที่ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย จังหวัดเลยกันนะ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

ทะเลสาบทุ่งกุลา ทะเลน้ำจืดแห่งเมืองสุรินทร์

              ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอิสาน ของประเทศไทย คนส่วนใหญ่คงนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม พวกโบราณสถานต่างๆ หรือไม่ก็ที่เที่ยวทางธรรมชาติ พวกอุทยานแห่งชาติ ภูเขา น้ำตก เขื่อน แต่คงมีน้อยคนคงจะนึกถึงทะเล แต่เราจะบอกว่าภาคอิสานก็มีทะเลให้เที่ยวเหมือนกันนะ เพราะที่จังหวัดสุรินทร์ เขามีที่เที่ยวในบรรยากาศของทะเล น้ำสีฟ้าใส รอทุกคนอยู่ กับสถานที่ที่มีชื่อว่า ทะเลสาบทุ่งกุลา นั่นเอง

              ทะเลสาบทุ่งกุลา ตั้งอยู่ใน ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ เป็นหนึ่งในโครงการแก้มลิง อ่างกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่กรมชลประทานขุดเอาไว้ใช้เพื่อการเกษตร ซึ่งในสมัยก่อนบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้นี้แห้งแล้งมาก จะมีไว้ใช้เลี้ยงสัตว์เท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 750 ไร่ ไปซะแล้ว

              ครั้งแรกที่ขุดอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ น้ำก็มีสีขุ่นตามธรรมชาติ แต่ภายหลังน้ำได้เปลี่ยนเป็นสีคราม เพราะจุดนี้เป็นบริเวณของน้ำกร่อย อันเนื่องมาจากเมื่อก่อนเคยเป็นที่ผลิตเกลือสินเธาว์ ทำให้น้ำกลายมาเป็นใสสีฟ้าสวยงามเหมือนน้ำทะเลแบบที่เห็นในปัจจุบัน และด้วยบรรยากาศของบริเวณนี้ที่มีลมพัดเย็นสบาย ก็ยิ่งทำให้เหมือนกับได้มาพักผ่อนอยู่ริมชายหาดเข้าไปใหญ่

               ส่วนบริเวณโดยรอบของทะเลสาบทุ่งกุลา ก็มีแพซึ่งเป็นร้านอาหารตั้งเรียงรายกันอยู่มากมาย ด้านกิจกรรมต่างๆ ของที่นี่ ก็มีให้เลือกทำเยอะไปหมด ทั้งบานาน่าโบ๊ท เรือถีบ แพคาราโอเกะ รวมถึงปั่นจักรยานชมวิว เท่านั้นยังไม่พอ เรายังสามารถลากแพออกไปนั่งกินอาหารกันชิลล์ๆ กลางน้ำได้อีกด้วย จะนั่งห้อยขาจุ่มน้ำกินข้าวไปด้วย หรือจะกระโดดลงน้ำเล่น ก็สนุกสุดๆ เรียกว่ามาชิลล์กันได้ทั้งครอบครัว ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยทีเดียว

               อีกหนึ่งกิจกรรมที่ถือเป็นไฮไลท์ของทะเลสาบทุ่งกุลา ก็คือการได้นั่งชมวิวของพระอาทิตย์ตกดินในช่วงเย็น โดยภาพที่เราจะได้เห็น ก็คือภาพของพระอาทิตย์ที่ส่องแสงกระทบกับผืนน้ำของทะเลสาบ ท่ามกลางบรรยากาศอันสุดฟิน ลมพัดสบาย กว่าจะรู้ตัวอีกที พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปเรียบร้อยแล้ว

               หลายคนที่ได้มาเที่ยวที่นี่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่คิดเลยว่าสุรินทร์ จะมีสถานที่เที่ยวชิลล์ๆ แบบนี้ด้วย ใครสนใจสามารถเดินทางโดยใช้ถนนหมายเลข 214 ผ่านอำเภอจอมพระ อำเภอท่าตูม จากนั้นพอถึงแยกหน่วยบริการตำรวจทางหลวงอำเภอท่าตูมก็ให้เลี้ยวซ้าย ใช้ถนนหมายเลข 2018 มาจนถึงแยกวัดทุ่งสว่างวราราม แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 214 ก็จะเห็นป้ายบอกทางไป ทะเลสาบทุ่งกุลา

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย

               ถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวของจังหวัด ชัยภูมิ หลายคนน่าจะนึกถึงความสวยงามของทุ่งดอกกระเจียวบานสีชมพูหวานใส ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยเม็ดชุ่มฉ่ำ แต่วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับสถานที่เที่ยวอีกแบบหนึ่งในชัยภูมิ จังหวัดสวยแห่งภาคอีสาน ที่มีธรรมชาติแสนสวยไม่แพ้จังหวัดไหนๆ ทั้งทุ่งดอกกระเจียวอันโด่งดัง ผาหัวนาค รวมถึง มอหินขาว ที่ได้ชื่อว่าเป็น สโตนเฮนจ์ของเมืองไทย ซึ่งเรากำลังจะพาไปเที่ยวชมในวันนี้

              มอหินขาว ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งคำว่า มอหินขาว ที่ว่านี้ก็ คือ กลุ่มของหินทรายสีขาวที่วางเรียงรายคล้ายกับ สโตนเฮนจ์ ในประเทศอังกฤษ และนี่จึงเป็นที่มาของฉายา สโตนเฮนจ์เมืองไทย นั่นเอง ซึ่งสิ่งที่ทำให้ มอหินขาว กลายเป็นสวนหินธรรมชาติขึ้นมาได้ ก็เพราะเกิดการสะสมของตะกอนทรายและดินเหนียวจนแข็งตัวกลายเป็นหิน

              หินรูปร่างต่างๆ ใน มอหินขาว แห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก จนเกิดการบีบอัด คดโค้ง แตกหัก และกัดเซาะกัน ทำให้ได้ออกมาเป็นหินรูปต่างๆ ที่มีความสวยงามแปลกตา ซึ่งใครจะมองออกมาเป็นรูปอะไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของแต่ละคนที่พบเห็น

             นอกจากหินที่นี่จะเป็นหินทรายสีขาวแล้ว ก็ยังมีหินแบบอื่นๆ ให้ได้เห็นกันด้วย ได้แก่ หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง ซึ่งเป็นกลุ่มหินที่กระจายตัวอยู่หลายแห่งด้วยกัน

           กลุ่มหินชุดแรกที่เราจะได้เห็นเมื่อเดินทางเข้าไปยังบริเวณของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีลักษณะเป็นเสาหิน 5 ต้น สูงประมาณ 12 เมตร โดยมีหินต้นหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มากถึงกับต้องใช้ 22 คนโอบเลยทีเดียว ซึ่งเสาหินทั้ง 5 ต้นนี้ นับว่าเป็นเสาหินที่โดดเด่นที่สุด และเป็นจุดที่ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด หากมาเที่ยวชมที่ มอหินขาว แห่งนี้

             ต่อจากหินกลุ่มนี้ ถัดไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอกับ ดงหิน ซึ่งประกอบไปด้วยแท่งหินรูปร่างแปลกประหลาดมากมาย ทั้งหินที่มีรูปร่างคล้ายเจดีย์ กระดองเต่า รองเท้าบูท ซึ่งจุดนี้ยังสามารถขึ้นไปชมวิวของภูเขาไกลสุดลูกหูลูกตาได้สวยงามมากๆ อีกด้วย

             หากใครสนใจจะมาพักค้างคืนที่ มอหินขาว ต้องบอกไว้ก่อนว่า ที่นี่ไม่มีบ้านพักไว้ให้ แต่จะมีที่สำหรับกางเต็นท์ และมีห้องน้ำไว้บริการ แต่อาจจะไม่ได้สะดวกมากมายนัก และนักท่องเที่ยวที่จะมานอนกางเต็นท์ ก็ต้องเตรียมอาหารมาเองด้วย ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

เที่ยวหนองคายภายใน 1 วัน

              ใครที่มีเวลาว่างสั้นๆ แค่วันเดียว อยากจะเที่ยวหนองคายแบบได้เก็บที่เที่ยวดังๆ ครบจบภายใน 1 วัน ตามเรามาได้เลย เพราะวันนี้เราจะพาไปเยือนหนองคายแบบ one day trip มาดูกันดีกว่าว่ามีสถานที่ไหนน่าสนใจบ้าง

ศาลาแก้วกู่
ศาลาแก้วกู่ หรือ วัดแขก อยู่ห่างจากตัวเมืองหนองคายแค่ประมาณ 3 กิโลเมตร นับเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่แปลกตา แต่ก็สวยงามมาก ทั้งยังเป็นลานที่มีรูปปั้นเรื่องราวทางศาสนาไว้มากมาย ใครเป็นสายอาร์ท และชื่นชอบในงานศิลปะ งานปั้นต่างๆ จะต้องชอบที่นี่แน่นอน

ตลาดท่าเสด็จ
ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งขายสินค้า OTOP และสินค้าพื้นเมืองมากมาย รวมไปถึงของที่ระลึกของจังหวัดหนองคายด้วย ที่สำคัญยังอยู่ติดริมแม่น้ำโขง ทำให้เราสามารถมองเห็นฝั่งประเทศลาวได้ใกล้ๆ เลย จะไปชอปปิ้ง หรือจะเดินเล่นชิลล์ๆ ริมแม่น้ำก็ฟินไม่แพ้กัน

พระธาตุหล้าหนอง
พระธาตุหล้าหนอง หรือ พระธาตุหนองคาย เป็นพระธาตุที่อยู่กลางน้ำ ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุโบราณเอาไว้อายุหลายร้อยปีด้วยกัน แต่ก่อนเจดีย์จะอยู่บนฝั่งริมน้ำในเขตของวัดพระธาตุหนองคาย แต่ในปี พ.ศ. 2390 ได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะ จนทำให้ไปอยู่กลางลำน้ำโขงแทน จากนั้นก็ได้มีการสร้างพระธาตุหล้าหนองรูปแบบจำลอง เอาไว้บนฝั่งให้ได้ชมกันด้วย

ถ้ำดินเพียง
เป็นที่รู้กันดีว่า หนองคายเป็นเมืองแห่งพญานาค เมื่อมาหนองคาย เราก็ต้องมาเช็คอินกันที่ ถ้ำดินเพียง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ถ้ำพญานาค ซึ่งตั้งอยู่ในวัดถ้ำศรีมงคล โดยตัวถ้ำจะมีลักษณะเป็นโพรง แยกซอยออกไปทั่วบริเวณ เมื่อเข้ามาภายในถ้ำจะพบหินงอกหินย้อยกระจายอยู่รอบๆ รวมทั้งเสาหิน และโพรงหินที่มีรูปทรงแปลกตา ก็ยิ่งทำให้ถ้ำสวยงามตระการตาน่าชมมากจริงๆ นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของจังหวัดหนองคายเลยทีเดียว

พันโขดแสนไคร้
แล้วก็มาจบ one day trip กันที่แหล่งท่องเที่ยวสุด Unseen ของจังหวัดหนองคาย นั่นก็คือ พันโขดแสนไคร้ เกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง ที่เกิดจากก้อนหินหลากหลาย โดดเด่นด้วยสีสันและความมันวาวของหินนิลสีดำสะดุดตา กระจายอยู่กลางแม่น้ำโขง ทำให้ที่นี่ได้รับฉายาว่าเป็น “แกรนด์แคนยอนกลางแม่น้ำโขง” ถ้าใครมาหนองคาย แล้วไม่ได้มาเช็คอินที่นี่ถือว่าพลาดมาก

              เห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่า จังหวัดหนองคายไม่ได้มีดีแค่เป็นเมืองพญานาคเท่านั้น แต่ยังมีที่เที่ยวน่าประทับใจอื่นๆ อีกมากมาย ใครมีเวลาน้อยก็ลองไปตามพิกัดที่เราแนะนำได้ ส่วนใครที่มีเวลามากกว่านี้ ก็จัดเต็มกันได้เลย

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

มาโคราชก็ดูทะเลหมอกได้ ไม่ต้องขึ้นเหนือ

                ถ้าพูดถึงการไปชมทะเลหมอก หลายคนคงคิดว่าถ้าอยากจะได้เห็นวิวสวยๆ ก็ต้องเดินทางขึ้นเหนือ ไปบนภู หรือดอยสูงๆ แต่สำหรับบางคนแล้ว ถ้าต้องลำบากเดินทางไกลขนาดนั้น ขอเปลี่ยนเป็นเที่ยวแบบชิลล์ๆ ใกล้ๆ ดีกว่า

                แต่อย่าเพิ่งถอดใจไป เพราะวันนี้เรามีที่เที่ยวที่สามารถชมทะเลหมอกได้สวยไม่แพ้จังหวัดทางภาคเหนือมาฝาก นั่นก็คือที่จังหวัด นครราชสีมา มาดูกันดีกว่าว่าที่นี่มีจุดเช็คอินชมทะเลหมอกที่ไหนกันบ้าง

  1. เขายายเที่ยง
    ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นับเป็นจุดชมทะเลหมอกโคราชที่ใครๆ ก็ต้องมาเช็คอิน อากาศที่นี่สดชื่นเย็นสบายมาก เพราะมีลมพัดตลอดเวลา โดยเฉพาะถ้ามาในช่วงฤดูหนาวเราจะได้พบกับสายหมอกบางๆ กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย ด้านบนยังมีวิวสวยๆ ของอ่างพักน้ำขนาดใหญ่ มีกังหันลมยักษ์ และเขื่อนลำตะคลองให้ได้ชม ซึ่งกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่ก็คือ การปั่นจักรยานรอบอ่างพักน้ำเพื่อสัมผัสอากาศบริสุทธิ์นั่นเอง
  • ผาเก็บตะวัน
    ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติทับลาน อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมานับเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิตตลอดกาลที่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ส่วนใครที่อยู่บ้านแล้วรู้สึกเบื่อๆ อยากลองมาทำประโยชน์บ้าง ที่ผาเก็บตะวันเขาก็มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำกันด้วย อย่างการปลูกป่า การยิงเมล็ดพันธุ์พืชด้วยหนังสติ๊ก มีทั้งเมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน ซึ่งเป็นวิธีปลูกป่าที่ได้ผลดีเลยทีเดียว ที่สำคัญมีจุดกางเต็นท์ไว้ให้สำหรับสายลุยด้วย
  • ผาเดียวดาย
    ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นับเป็นแลนด์มาร์กและจุดชมวิวทะเลหมอกในโคราชที่ใครๆ ก็ต้องรู้จัก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสายรักธรรมชาติ เพราะด้านบนอุทยานเราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม ทั้งน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวนรก และยังมีกิจกรรมส่องชีวิตสัตว์ยามค่ำคืนอีกด้วย ยิ่งในช่วงฤดูหนาวจะได้เห็นสายหมอกได้ทั่วบริเวณเลยทีเดียว
  • ผารักษ์สลัดได
    ตั้งอยู่ที่ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ผาแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงชัน บริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยต้นสลัดได ต้นไม้ประจำถิ่นหาชมยาก ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ ที่ผารักษ์สลัดไดเรายังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้อย่างสวยงาม พร้อมกับทิวทัศน์ของอำเภอวังน้ำเขียวได้เกือบทั้งอำเภออีกด้วย

              ใครที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง วันหยุดน้อย และไม่สะดวกเดินทางไกล หรือไปค้างหลายวัน ขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวกันตามพิกัดเหล่านี้ได้เลย รับรองว่าจะได้ชมบรรยากาศของทะเลหมอกที่สวยไม่แพ้ที่ใดๆ เช่นกัน

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน