ถ้าโหยหาสายลม แสงแดด และทะเล สมุย คือตัวเลือกหนึ่งที่ดีงามอันดับต้นๆ เพราะเดินทางไม่ยาก แถมยังมีความบันเทิงแบบครบรส ทั้งธรรมชาติ กิจกรรมแอดเวนเจอร์ต่างๆ หรือแม้แต่แสงสีเสียงตอนกลางคืนก็มีให้ ยิ่งถ้าชอบเดินชอปปิ้งตอนค่ำๆ และตระเวนหาของกินเด็ดๆ สมุยถือว่าไม่น้อยหน้าใครแน่นอน เรามาดูกันดีกว่าว่าถ้าไปสมุยควรไปแวะปักหมุดที่จุดไหนกันบ้าง

หาดหัวถนน
ขอเริ่มต้นสำหรับคนที่อยากหาที่เดินเล่นชิลล์ๆ ไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนเยอะๆ หาดนี้นับเป็นมุมสงบที่คุณตามหา เพราะไม่ใช่หาดท่องเที่ยวหลัก ผู้คนเลยไม่พลุกพล่าน ถือเป็นพิกัดลับสำหรับคนที่ชอบความสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะกับการเกี่ยวก้อยใครซักคนมาเดินเล่นรับลมชมบรรยากาศสุดโรแมนติก แต่ถ้าอยากเล่นน้ำก็ทำได้ เพราะน้ำทะเลใสไม่แพ้หาดไหนๆ เหมือนกัน

Jungle Route 360 องศา
ถือเป็นจุดเที่ยวสมุยที่ให้ฟีลต่างไปจากภาพจำที่เราคุ้นเคย เพราะที่นี่เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาสูงกว่า 600 เมตร ทำให้อากาศสบายมากๆ แถมได้ฟีลผจญภัยหน่อยๆ ด้วย เพราะต้องใช้รถโฟร์วีลไต่ขึ้นไป ด้านบนมีกิจกรรมตามแบบวิถีชีวิตเกษตรกรท้องถิ่นให้ได้ลองเวิร์คช็อป แถมยังมีอาหารให้อร่อยๆ ให้กินด้วย ที่เริ่ดคือวิวพระอาทิตย์ตกบนยอดเขาสูงสุดโรแมนติกนั่นเอง

ถนนคนเดินบ่อผุด
ถนนคนเดินที่ได้ฟีลสมุยสุดๆ เพราะเดิมทีเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมง และท่าจอดเรือประมง เวลามาเดินที่นี่จึงได้กลิ่นอายแบบย้อนยุคหน่อยๆ กับบรรยากาศบ้านไม้ 2 ฝั่ง ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นร้านค้า อย่างร้านเสื้อผ้า และของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารซีฟู้ดสดๆ รสชาติดี ใครมาสมุยควรมาแวะให้ได้

วัดปลายแหลม
มาต่อกันที่วัดสวยสุดอลังการงานสร้าง ที่สายมูทั้งหลายจะต้องแฮปปี้อย่างแน่นอน เพราะที่นี่มีรูปจำลองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ขอพรกันแบบรัวๆ ไม่ว่าจะเป็นการกราบพระในโบสถ์ตามแบบชาวพุทธทั่วไป การขอพรองค์พระสังกัจจายน์เพื่อโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์ ปิดท้ายที่การกราบเจ้าแม่กวนอิมพันมือไซส์ใหญ่ตระการตา เพื่อความเป็นสิริมงคล

หาดเฉวง
และไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาสมุย ก็ต้องเป็นการมาชมความงามของหาดเฉวง เพราะที่มีน้ำทะเลสีฟ้าใส และหาดทรายขาวยาวเหยียดกว่า 6 กิโลเมตร ใครชอบกิจกรรมและความคึกคัก หาดนี้ก็มีครบ ทั้งบานาน่าโบ๊ท เจ็ทสกี และอีกหลายกิจกรรม หรือจะเป็นร้านอาหาร บาร์นั่งชิลล์ ก็มีหมด มาหาดนี้ก็ไม่มีเหงาแน่ๆ

               สมุย คือเกาะสวรรค์ของภาคใต้อย่างแท้จริง ที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่เดือนกี่ปี ความสวยของที่นี่ก็ยังคงเสมอต้นเสมอปลาย

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

                  ถ้าพูดถึงจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคใต้ สุราษฎร์ธานี ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ติดอันดับต้นๆ เสมอ เพราะมีทั้งที่เที่ยวที่เป็นภูเขา น้ำตก ทะเล และเขื่อนสวยๆ ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยว เขื่อนรัชชประภา หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อของ เขื่อนเชี่ยวหลาน และแวะเช็คอินกันที่ ควนคางคก จุดเช็คอินลับเขื่อนรัชชประภาที่สวยงามไม่แพ้ใคร แต่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก ส่วนจะสวยแค่ไหนนั้น ก็ต้องตามไปดูกันเลย

                ควนคางคก หรือ Frog Island คือเกาะเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดชมวิวในอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของเขื่อนรัชชประภา ที่เต็มไปด้วยความงามของภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน ตัดกับผืนน้ำสีเขียวอมฟ้าสวยสง่าราวกับภาพวาด เมื่อบวกกับบรรยากาศที่เงียบสงบ ก็ทำให้ที่นี่ยิ่งดูมีพลังน่าดึงดูดยิ่งขึ้น โดยการนั่งเรือมายังควนคางคกจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้ได้เห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติได้ตลอดการเดินทาง เมื่อมาถึงก็จะพบกับขอนไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกเขียนชื่อว่า ควนคางคก นั่นเป็นการยืนยันว่าเราได้มาถึงจุดหมายแน่นอนแล้ว แถมยังเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินที่เริดมาก

             บนเกาะ ควนคางคก แห่งนี้จะมีศาลาที่ทางอุทยานได้สร้างขึ้นเอาไว้เพื่อรองรับนักเที่ยวที่แวะเวียนกันมาทำกิจกรรมต่างๆ หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเล่นน้ำ พายเรือคายัก กางเต็นท์ หรือแค่นั่งเล่นชมวิวเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศก็ได้เหมือนกัน เพราะภาพความงามของเขื่อนรัชชประภาที่มองเห็นได้จากควนคางคกนั้นเป็นภาพที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน และจากจุดนี้เรายังสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็นได้อย่างสวยงามมากๆ อีกด้วย

            ส่วนในช่วงเช้าหากเป็นเวลาหลังฝนตกเราก็จะสามารถมองเห็นปุยหมอกสีขาวลอยปกคลุมยอดเขาหินปูนไปทั่วบริเวณ นับเป็นภาพที่สวยงามยากจะบรรยายจริงๆ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สวยงามไปหมด แต่ใครที่อยากจะได้เห็นภาพความสวยงามแบบนี้ อาจจะต้องมากางเต็นท์นอนที่นี่สักคืน เพราะจะได้เห็นทั้งวิวพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นและสายหมอกสวยๆ ในตอนเช้า แล้วคุณจะตกหลุมรักควนคางคกอย่างแน่นอน

             ใครอยากมาเที่ยวสถานในบรรยากาศสวยๆ และมาสัมผัสถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่หาจากไหนไม่ได้อีก ทั้งยังได้นั่งเรือชมความงามของเขื่อนแบบใกล้ชิด ขอแนะนำจุดเช็คอินลับอย่างควนคางคก ที่เราไม่อยากให้ลับอีกต่อไป และขอรับรองว่าทริปนี้จะต้องเป็นทริปที่แสนพิเศษสำหรับทุกคน

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

                ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นช่วง ปลายฝนต้นหนาว ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้เที่ยวชมความงามของทะเลหมอก และสูดอากาศสดชื่นกันให้ชุ่มฉ่ำปอด แต่จะมีสถานที่ไหนที่เราสามารถไปชาร์จแบตให้ธรรมชาติเยียวยาได้บ้าง เรามีข้อมูลดีๆ มาแนะนำ

1. ไร่ชาฉุยฟง / เชียงราย
   นับเป็นไร่ชายอดฮิตที่สามารถเที่ยวได้ทั้งหน้าฝนและหน้าหนาวเลยทีเดียวสำหรับ ไร่ชาฉุยฟง โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะเราจะได้วิวสวยๆ ของไร่ชาที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนเป็นพรอพเก๋ๆ ให้ได้ถ่ายรูปกันแบบแบบพาโนราม่า นอกจากนี้ก็ต้องไม่พลาดลองชาเขียวปั่นกับชีสเค้กชาเขียวที่คาเฟ่ของไร่ชา ซึ่งใช้ชาเขียวจากไร่เองเลยด้วย

• ผาชะนะได / อุบลราชธานี

เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ ผาชะนะได กันมาบ้างจากข่าวพยากรณ์อากาศ เนื่องจากที่นี่เป็นผาที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของประเทศไทย จึงเป็นจุดที่พระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศ ผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตของ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เมื่อได้ขึ้นไปบนหน้าผาแล้วมองลงมา จะเห็นวิวเบื้องล่างที่สวยงามอลังการมาก นั่นคือวิวของแม่น้ำโขงที่กั้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับลาว ซึ่งเต็มไปด้วยป่าไม้เขียวขจี และทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขง

• ดอยหัวหมด / ตาก
  ดอยหัวหมด เป็นจุดชมทะเลหมอกชื่อดังของจังหวัดตาก ตั้งอยู่ในเขตอำเภออุ้มผาง หากมาเที่ยวที่นี่เราจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดมากๆ โดยสามารถขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือผืนทะเลหมอกยามเช้า พร้อมกับชมวิวแบบพาโนราม่าได้ โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว แนะนำให้ขึ้นไปดูทะเลหมอกในช่วงตี 5 ถึง 6 โมงเช้า จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด นอกจากทะเลหมอกสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีทุ่งดอกไม้สีชมพู ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งทั่วดอย จนทำให้ ดอยหัวหมด ในช่วงเวลานั้น ถูกเรียกว่า ดอยชมพู เลยทีเดียว

• ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง / ยะลา

ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ภาคอื่นๆ เลย สำหรับทะเลหมอก อัยเยอร์เวง ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่สำคัญคือ มีทะเลหมอกให้เราได้เห็นกันแทบทั้งปีอีกด้วย และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ การเดินบน สกายวอล์คอัยเยอร์เวง ซึ่งเป็นพื้นกระจกใส ตั้งอยู่บนระดับความสูงกว่า 2,038 ฟุต ยาว 61 เมตร นับว่าเป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในอาเซียนเชียวนะ

                แนะนำกันไปครบถ้วนแล้ว สำหรับที่เที่ยวเด็ดๆ ในการชมทะเลหมอกในช่วงปลายฝนต้นหนาว ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง และใต้ ใครสะดวกไปที่ไหน ก็เชิญได้ตามอัธยาศัย หรือใครอยากจะไปให้ครบทุกที่ก็ไม่ว่ากันจ้า

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

                    ถ้าพูดถึงป่าลุ่มน้ำอเมซอน ใครๆ ก็คงรู้กันดีถึงกิตติศัพท์เรื่องความยิ่งใหญ่ มีมนต์ขลัง และเปี่ยมไปด้วยพลัง แต่ก็แฝงไว้ด้วยความงดงามอย่างยากที่จะหาถ้อยคำมาเปรียบได้ คงจะดีไม่น้อยเลยถ้าประเทศไทยของเราจะมีป่าแบบนั้นให้ได้ท่องเที่ยวกันบ้าง วันนี้เราเลยจะพาไปทำความรู้จักกับ “คลองสังเน่ห์” ที่ได้ชื่อว่าเป็น Little Amazon แห่งเมืองตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งว่ากันว่าที่นี่มีความคล้ายกับป่าอเมซอนเลยล่ะ

                  แม้ตะกั่วป่าจะเป็นเมืองชายทะเล แต่ก็โอบล้อมไปด้วยขุนเขา แถมยังมีผืนป่าเล็กๆ ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ถึงขนาดที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Little Amazon เมืองไทย” ทีเดียว

                  คลองสังเน่ห์ เป็นคลองสายสั้นๆ ที่มีต้นน้ำมาจากเขาบางเต่า และไปสิ้นสุดที่แม่น้ำตะกั่วป่า จึงเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ซึ่งส่วนใหญ่การท่องเที่ยวในลักษณะนี้มักได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียมากกว่า โชคดีที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่าเล็กๆ แห่งนี้เอาไว้อย่างเหนียวแน่น คนไทยเราจึงได้มีโอกาสได้เที่ยวกับเค้าบ้าง

                   หากใครจะมา แนะนำให้เลือกช่วงเวลาล่องเรือเป็นตอนเช้าที่แดดยังอ่อนๆ และหากเป็นช่วงเวลาที่น้ำลงด้วย ก็จะได้เห็นรากของต้นไทรริม 2 ฝั่งคลอง และไม้ชายน้ำที่มีรากเกาะเกี่ยวกันได้อย่างถนัดตา ตลอด 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไทรยักษ์ที่มีอายุเป็น 100 ปี แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปทุกทิศทุกทาง แถมยังมีรากที่ทิ้งตัวลงสู่สายน้ำอีกนับไม่ถ้วน  

                  บริเวณรอบๆ ยังเต็มไปด้วยป่าต้นจากที่รกครึ้ม ยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมคล้ายป่าดงดิบในอเมซอนเข้าไปใหญ่ จึงเป็นที่มาของชื่อ Little Amazon นั่นเอง นอกจากต้นไทรยักษ์และต้นจาก เรายังได้เห็นต้นตีนเป็ดน้ำขึ้นแทรกตัวอยู่ทั่วไป และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ที่นี่จึงแหล่งอาหารชั้นดีของนกนานาชนิด รวมถึงกระรอก กระแต และปลาเล็กปลาน้อยก็ได้ผลไทรสุกเป็นอาหารด้วย และถ้าใครโชคดีก็จะได้เห็น นกเงือก บินมาหาอาหารในตอนเช้าๆ ด้วยเช่นกัน

                   นอกเหนือจากการล่องเรือชมนกชมไม้ไปตามลำน้ำที่ไหลเอื่อยแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งความตื่นเต้นในขณะล่องเรือลอดผ่านกิ่งก้านของต้นไทรก็คือ การได้พบกับ งู อันเป็นเสน่ห์ที่บ่งบอกถึงความสมบูรณ์แห่งป่า ซึ่งที่นี่ก็มีทั้ง งูเขียว งูปล้องทอง และงูอื่นๆ อีกหลายชนิด โดยในช่วงกลางวันจะเป็นเวลาที่บรรดางูๆ มานอนขดนิ่ง เพื่อรอออกหากินในตอนกลางคืนนั่นเอง

                   เมื่อล่องเรือชมวิวไปเพลินๆ ใน คลองสังเน่ห์ เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ด้วยเวลาชั่วโมงกว่าๆ เราจะได้เห็นถึงความมหัศจรรย์มากมายของสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนอยู่ในมุมเล็กๆ ของเมืองไทย และก็ไม่ใช่เพียงเท่านี้ เพราะยังคงมีอีกมากมายให้ได้ค้นหา

                 ถ้าพูดถึงตลาดน้ำ สถานที่แรกๆ ที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึงก็คงเป็น ตลาดน้ำอัมพวา หรือตลาดน้ำดำเนินสะดวก แต่ใครจะรู้บ้างว่าที่

อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เค้าก็มีตลาดน้ำด้วยเหมือนกัน นั่นก็คือ ตลาดน้ำคลองแห โดยเป็นตลาดน้ำที่เพิ่งเกิดขึ้นมาได้ไม่นาน สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนในภาคใต้  โดยเฉพาะชาวจังหวัดสงขลาเอง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียด้วย  

                ตลาดน้ำคลองแห ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของตัวเมืองหาดใหญ่ เปิดเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เป็นตลาดน้ำที่สร้างโดยเจตนารมณ์ของผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อให้ชาวบ้านได้ออกมานั่งพายเรือขายของให้กับนักท่องเที่ยวเป็นการหารายได้อีกทางหนึ่ง ทุกวันนี้ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาไปอย่างมาก

เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกันแบบไม่ขาดสาย หากใครได้ผ่านไปแถวนั้น จะเห็นได้เลยว่ามีบรรยากาศที่คึกคัก รถราเยอะแยะไปหมด ทั้งรถทัวร์ที่พานักท่องเที่ยวมาลง และรถเก๋งของนักท่องเที่ยวทั่วไปที่เดินทางกันมาไม่ขาด เพราะถนนเส้น ตลาดน้ำคลองแห นั้น เป็นเส้นที่จะต้องมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองหาดใหญ่นั่นเอง

                 บอกได้เลยว่า ตลาดน้ำคลองแห แห่งนี้ต้องเป็นที่ถูกใจนักชอปสุดๆ เพราะมีทั้งอาหารและของขายอื่นๆ อีกเพียบ  แต่แม้จุดขายของที่นี่จะเป็นตลาดน้ำ แต่ก็ใช่ว่าพ่อค้าแม่ค้าจะนั่งขายของกันอยู่แต่บนเรือเท่านั้น ที่นี่เค้ายังมีตลาดบก ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง เดินสบาย

และจอดรถง่ายอีกด้วย จุดขายอีกอย่างหนึ่งของ ตลาดน้ำคลองแห คือ หนังลุง หรือหนังตะลุง เอกลักษณ์ของภาคใต้ ซึ่งมีการจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอยู่ตลอด ส่วนใหญ่จะเน้นเนื้อหาตลกโปกฮา โดยมี ไอ้เท่ง กับ ไอ้ทอง เป็นตัวเก่ง แต่บางครั้งหากไม่ใช่คนในพื้นที่ก็อาจจะฟังไม่ทัน เพราะพูดกันเร็วมาก 

               ตลาดน้ำคลองแห จะแตกต่างจากตลาดน้ำอัมพวา และตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตรงที่พ่อค้าแม่ค้าเค้าจะโพกหัวแบบมุสลิม เพราะคนที่นี่เค้าเป็นชาวมุสลิมกันซะส่วนใหญ่ และสิ่งที่แตกต่างแต่น่ารักมากๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ที่นี่เค้ารณรงค์ให้ใช้ภาชนะใส่อาหารจากธรรมชาติอย่าง กะลา ไม่ใผ่ หม้อดินเผา ซึ่งไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนพวกโฟมหรือพลาสติก ถ้าตลาดน้ำที่อื่นจะนำเอาไปเป็นแบบอย่างบ้างก็คงจะดีไม่น้อย

               ในส่วนของอาหารคาวหวานของที่นี่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารพื้นเมือง เช่น ข้าวยำปักษ์ใต้ ขนมจีนใต้ เต้าคั่ว ฯลฯ ส่วนขนมก็เช่น ขนมด้วง ขนมโค ขนมมด และขนมพื้นบ้านภาคใต้อื่นๆ หรือแม้แต่อาหารใต้บางอย่างที่หาทานได้ยาก ก็ยังสามารถหาทานได้ที่นี่เช่นกัน

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

                  หากพูดถึงจังหวัด กระบี่ หลายคนคงจะนึกถึงภาพของแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเกาะแก่ง และชายหาดสวยๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่า จังหวัดกระบี่เองยังมีอีกมุมหนึ่งที่เป็นขุนเขา ป่าดง สายน้ำ และสรรพสัตว์ ให้ได้เที่ยวชมกันด้วย อย่างยอดเขาที่สูงสุดของจังหวัดกระบี่ที่มีชื่อว่า ยอดเขาพนมเบญจา นั่นเอง

              เขาพนมเบญจา มีความสูงถึง 1,397 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีเนื้อที่ครอบคลุม อ.อ่าวลึก อ.เมือง และ อ.เขาพนม ของจังหวัดกระบี่ ชาวบ้านจะเรียกเขาแห่งนี้ว่า “เขานม” เพราะรูปร่างของแนวเทือกเขาที่มองแต่ไกลจะดูคล้ายกับผู้หญิงนอนหงาย และบนยอดเขาสูงสุดก็จะเหมือนเป็นนม 2 ข้าง ในบริเวณคอจะเรียกว่า “คอนางนอน” ถัดมาก็เป็นส่วนหัวเรียกว่า “หน้าผากนางนอน”

                 จากจุดเริ่มต้นของการเดินป่าเขาพนมเบญจา เมื่อเดินขึ้นไปเรื่อยๆ สภาพป่าจะเปลี่ยนไปตามระดับความสูง ลักษณะของต้นไม้ส่วนใหญ่จะไม่สูงมากนัก ส่วนใบไม้ก็จะมีขนาดเล็กเหมือนๆ กันหมด ระหว่างทางจะได้เห็นกล้วยไม้ป่าบานอยู่ในระดับแค่เอื้อม เดินไม่นานก็จะมาทะลุที่โล่งในบริเวณร่องหุบเขา มองเห็นลานหินกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นตำแหน่งของเทือกเขาที่เรียกว่า “คอนางนอน”

                 บริเวณลำห้วยจะมีร่องรอยการพักค้างแรมของนักเดินทางรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด เพราะจุดนี้มีสายน้ำที่อุดมสมบูรณ์ไหลตลอดทั้งปี มีลานหิน และทุ่งหญ้าอย่างพวกหญ้าข้าวก่ำ และเอื้องนวลจันทร์ หากข้ามไปฝั่งคอเขาที่เป็นลานหินอีกฟากหนึ่งตามบริเวณลานทุ่งหญ้าป่าแคระ ก็จะได้พบกับกล้วยไม้นานาพันธุ์ ที่ซุกซ่อนอยู่ตามพงป่า เช่น สิงโตก้ามปูม้า, เอื้องเทียนหนู และสิงโตใบพัดเหลือง เป็นต้น

                 หากใครได้มาตั้งแคมป์พักค้างแรมที่คอนางนอนแห่งนี้ จะได้พบกับความงดงามของแสงยามเช้าที่ส่องลอดแนวหมอก จนกลายเป็นภาพแสงสีทองสวยงามแปลกตา และเมื่อเวลาค่อยๆ เปลี่ยนไป ธรรมชาติก็เปลี่ยนตาม ลำแสงที่ส่องสาดก็เกิดเป็นภาพที่สวยงามน่าทึ่ง

                ป่าเขาพนมเบญจา ถือได้ว่าเป็นผืนป่าที่มีคุณค่าต่อการศึกษาธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นด้านพรรณไม้ สัตว์ป่า หมู่นก ตลอดจนการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สายลมบนเทือกเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ เป็นแหล่งผลิตออกซิเจนอย่างดีที่ไม่ต้องหาซื้อต้องหา

ใครอยากมาสูดลมหายใจเอาโอโซนจากธรรมชาติเข้าปอดอย่างเต็มที่ และมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงพอจะเดินป่าปีนเขาไหว เทือกเขาพนมเบญจาแห่งนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

                   พอถึงหน้าร้อนทีไร ใครๆ ก็คงนึงถึงการเที่ยวทะเลกันเป็นอันดับแรก เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศของท้องฟ้าใสๆ หาดทรายขาวๆ และทะเลสีครามแสนสวย ยิ่งถ้าเป็นที่ที่ยังมีสภาพธรรมชาติที่บริสุทธิ์ด้วยก็จะยิ่งฟินมาก เพราะทุกวันนี้ตามหมู่เกาะต่าง

มักมีที่พักและสิ่งปลูกสร้างของภาคเอกชนผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด จนมองหาสภาพที่เป็นธรรมชาติแท้ๆ แทบไม่เจอ แม้ในส่วนของอุทยานแห่งชาติเองก็ยังมีสิ่งปลูกอยู่บ้าง แต่ก็พอรับได้ และวันนี้เราจะพาไปทัวร์เกาะแห่งหนึ่งในระแวกน่านน้ำทะเลตรัง ที่มีชื่อว่า “เกาะรอก”

                  เกาะรอก เป็นหมู่เกาะขนาดกลาง ตั้งอยู่กลางทะเลในเขตจังหวัดกระบี่ แต่ผู้คนส่วนใหญ่มักรู้กันดีว่า หากเดินทางไปจากจังหวัดตรังก็จะสะดวกกว่า หรือจะเดินทางจากเกาะลันตาก็สะดวกเช่นกัน เพราะมีเรือทัวร์ไปทุกวัน แต่หากเลือกเดินทางไปจากจังหวัดตรัง แม้จะไกลสักนิด แต่ระหว่างทางจะผ่านจุดท่องเที่ยวต่างๆ ของทะเลตรังด้วย ซึ่งล้วนแต่สวยงามน่าแวะชมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เกาะกระดาน เกาะเชือก เกาะม้า เกาะแหวน และถ้ำมรกต

                 เกาะรอก แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาช้านาน ซึ่งจะมี 2 เกาะอยู่ใกล้กัน คือ เกาะรอกนอก กับ เกาะรอกใน ที่มีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ หมู่เกาะลันตาตั้งอยู่ สามารถขึ้นไปพักค้างแรมได้ แต่เฉพาะคนที่จะพักเต็นท์เท่านั้น ความสวยงามของท้องทะเล เกาะรอก คือแนวร่องน้ำของหมู่เกาะทั้งสอง ซึ่งหากได้ขึ้นไปอยู่ในมุมสูงแล้วมองลงมา ก็จะเห็นเป็นภาพที่มีมิติมากขึ้น ส่วนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติขึ้นไปยอดเขา ก็จะเป็นเส้นทางวงรอบ สามารถมองเห็นผืนน้ำทะเลได้อย่างสวยงามเช่นกัน

                นอกจากนี้ก็ยังมีความงามของแนวหาดทราย ซึ่งจะมีอยู่หลายมุมที่เส้นสายของหาดทรายโค้งรับกับผืนน้ำ และมีริ้วลายที่สวยงาม จุดเด่นของ เกาะรอก คือ เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส และมีหมู่ปะการังน้ำตื้นมากมายให้สามารถเล่นน้ำชมปะการังได้ตลอดแนว พอตกเย็นก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกที่ร่องเกาะรอก นับเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก

                ที่นี่ยังมี ปูเสฉวน อยู่เป็นจำนวนมาก พวกมันอาศัยอยู่หาดทรายและแนวป่ารก โดยเราจะได้พบในยามที่น้ำทะเลลง ซึ่งปูจะออกมากินอาหารที่ตกค้างตามผืนทราย

               ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวทางทะเลก็คือสภาพอากาศ ว่าจะแดดจ้าฟ้าใส หรือฟ้าหลัวเมฆครึ้ม เพราะโอกาสที่จะได้ภาพดีๆ สวยๆ ก็อยู่ที่สภาพอากาศนี่แหล่ะ ฉะนั้นก่อนออกเดินทางก็อย่าลืมเช็คพยากรณ์อากาศกันหน่อยล่ะ

พัทยา เมืองชายทะเลที่พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดีมากๆทีเดียว เพราะว่าเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงมากของคนไทย ทั้งชาวต่างชาติ และคนไทยมากมายไปเที่ยวกันปีละหลายๆล้านคน บทนี้จึงขอนำ 5 ที่เที่ยวเมืองพัทยาที่ต้องไปแวะ มาฝากทุกคนกัน ใครที่อยากจะไปเที่ยวพัทยากันแล้ว เราเดินทางไปที่เมืองพัทยาด้วยกันเลย

1. สวนศิลปะพัทยา Love Art Park

คนรักงานศิลปะ สวนที่จะเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวด้วยงานศิลปะ Human Body หรือ ร่างกายมนุษย์ สวนศิลปะแห่งรักแนวอิโรติก ซึ่งสื่อถึงความรักในรูปแบบของรูปปั้นต่างๆ ซึ่งจะเเบ่งออกเป็นโซนๆ มีรูปปั้นกำลังแสดงอริยาบถต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีคลาสเรียนปั้นดินเหนียว และไฟเบอร์กลาส สอนโดยศิลปินมืออาชีพระดับโลกอีกด้วย

ที่อยู่ : 129/5-7 หมู่ 8 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

พิกัด : https://goo.gl/maps/4EJfFpTCb1w2FjHd7

เปิดให้เข้าชม : 09.00-18.00 น.

ค่าเข้า : ในส่วนของสวนศิลปะ เข้าชมฟรี

โทร : 0-3823-7710

เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/LoveArtParkPattaya

• Monsters Aquarium Pattaya

เป็นที่เที่ยว และแหล่งเรียนรู้ ที่นี่มีอุโมงค์ปลาน้ำจืด เป็นแหล่งรวมสัตว์หายาก สัตว์แปลก หลากหลายสายพันธุ์ นอกจากนี้ยังสามารถใลก้ชิดกับสัตว์ต่างๆ ได้ด้วยกิจกรรมถ่ายรูปกับสัตว์อย่างใกล้ชิด ให้อาหารปลาและกระต่าย ขี่ม้า เป็นต้น เป็นอีกที่เที่ยวที่เหมาะกับเด็กๆ มาก

ที่อยู่ : 125/1 หมู่ 8 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

พิกัด : https://goo.gl/maps/cXBcgmx5kE6vpTg5A

เปิดให้เข้าชม : 09.00-18.00 น.

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 120 บาท / เด็ก 60 บาท

โทร : 08-5152-3715

เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/MonstersaquariumPattaya

• ฟาร์มแกะ พัทยา

    ที่เที่ยวสุดฮิตอีกแห่งของพัทยา และยังเป็นฟาร์มแกะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย แน่นอนว่า เรามาฟาร์มแกะก็ต้องมาให้อาหารแกะ และชมการแสดงโชว์ของแกะนั่นเอง แต่ที่นี่ก็ยังมีสัตว์กว่าร้อยชนิดให้ได้สัมผัสใกล้ชิดอีกด้วย อีกทั้งยังมี จุดถ่ายรูปสวยๆ เพียบและอิ่มอร่อยไปกับ เดอะ บาร์น สเต็กเฮ้าส์ ร้านกาแฟ ร้านไอศกรีม และร้านค้าต่างๆ มากมาย

ที่อยู่ : 73/8 หมู่ 3 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

พิกัด : https://goo.gl/maps/xQZFRme5QfprG3s79

เปิดให้เข้าชม : 09.00-19.00 น.

ค่าเข้า : คนไทย 160 บาท (เข้าได้ทุกโซน)

ราคาเข้าชม ฟาร์ม 60 บาท (ราคาเดียวกันทั้งคนไทยและคนต่างชาติ)

ราคาเข้าชม เมืองนิทาน 20 บาท

ราคาเข้าชม โชว์นก 100 บาท

ราคาเข้าชม โชว์สัตว์แสนรู้ 100 บาท

โทร : 09-7459-9919

เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/PattayaSheepFarm

• ปราสาทสัจธรรม

ที่เที่ยวพัทยา เป็นงานศิลปะที่ถ่ายทอดผ่านทางสถาปัตยกรรมผสมผสานที่ดูแล้วลงตัว ด้วยไม้แกะสลักทั้งหลังเป็นทรงไทยจตุรมุข โดยยึดการต่อไม้แบบโบราณ เข้าเดือยตอกสลัก เข้าลิ่ม โดยไม่มีการใช้ตะปูเลยแม้ตัวเดียว

      เป็นการผสมผสานความสวยงามของศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาและรัตนโกสินทร์เข้าด้วยกัน เป็นอีกที่เที่ยวสวยของพัทยาที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว รวมถึงที่นี่ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย

ที่อยู่ : 206/2 หมู่ 5 ซอยนาเกลือ 12 แหลมราชเวช อ่าววงพระจันทร์ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

พิกัด : https://goo.gl/maps/4QgQxhBfLmmywGor5

เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 500 บาท / เด็ก 250 บาท

โทร : 03-8110-656

เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/sanctuaryoftruthmuseum

• หาดวงศ์อมาตย์

เป็นชายหาดที่อยู่ติดกับหาดพัทยาเหนือ เป็นหาดที่ค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัวเพราะไม่มีถนนเลียบชายหาด อีกทั้งบริเวณชายหาดจะมีน้ำทะเลที่ใสและสะอาดกว่าหาดพัทยาอีกด้วย ใครที่อยากมาเที่ยวทะเลพัทยา ที่นี่แหละเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลย

ที่อยู่ : หาดวงศ์อมาตย์ ซอยนาเกลือ18 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

พิกัด : https://goo.gl/maps/Kpvc3A91mFnMmb1s6

เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.

ที่นำมาฝากกัน ใครที่อยากจะไปเที่ยวที่เมืองพัทยาตามสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปแวะ ก็ติดต่อไปตามช่องทางที่แนบไว้ให้ด้านบนกันได้เลย แล้วบทหน้าเรามาพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปสรรหามาฝากกันได้อีกในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง เราต้องมาติดตามกันต่อ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

ไปพักผ่อนริมทะเลที่ สีฟ้า รีสอร์ท เกาะกูด ตราด (Sea Far Resort)

สีฟ้า รีสอร์ท (Sea Far Resort) ที่พักที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติบนเกาะกูด จังหวัดตราด ให้ผู้ที่เข้าพักได้สัมผัสถึงความเงียบสงบและความสวยงามของท้องทะเล เผื่อใครอยากจะไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงใกล้เทศกาลวันหยุดปีใหม่นี้กัน

บทนี้จึงขอนำ ไปพักผ่อนริมทะเลที่ สีฟ้า รีสอร์ท เกาะกูด ตราด (Sea Far Resort) มาฝากทุกคนกัน ใครอยากจะไปเที่ยวพักผ่อนที่นี่กันแล้ว เราเดินทางไปที่สีฟ้า รีสอร์ท เกาะกูด ด้วยกันเลย

ห้องพักของสีฟ้า รีสอร์ทมีทั้งหมด 5 แบบ คือ Coconut Garden Deluxe, Coconut Pool Garden Deluxe, Coconut Garden Family, Beach Front Bungalow และ Beach Front Deluxe with Jacuzzi Bath Room และไฮไลท์ของที่นี่เลย คือ สะพานไม้ที่ยื่นตัวออกไปในทะเล ให้ทุกคนได้เดินเล่นสัมผัสกับน้ำทะเลใสๆ ของเกาะกูดอย่างใกล้ชิด ได้เติมพลังในวันพักผ่อนที่แสนสบายกันอย่างเต็มที่สุดๆไปเลย

ที่สีฟ้ารีสอร์ท มีบริการเรือนำเที่ยวไว้บริการให้นักท่องเที่ยวด้วย

-เดินทางไป-กลับ ตราด เกาะกูด

-ติดต่อดำน้ำ เกาะแรด เกาะรัง เกาะขาม

-ถ้าจองพร้อมที่พัก มีราคาพิเศษให้ด้วยนะ

สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้เลยที่เบอร์นี้

0849953646

0811511176

สีฟ้า รีสอร์ท เกาะกูด จังหวัดตราด (Sea Far Resort) ได้รับการการันตีเรียบร้อยแล้วจาก SHA Plus เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความพร้อมของผู้ประกอบการ เพื่อรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากต่างประเทศ

ซึ่งพนักงานในสถานประกอบการต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ต่ำกว่า 70% เพื่อสร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้กับผู้รับบริการ

โดยมาตรฐาน SHA ยังได้รับการรับรองจาก World Travel & Tourism Council (WTTC) หรือ สภาการท่องเที่ยวโลกว่าสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA จะได้มาตรฐานตามข้อกำหนด Safe Travels Stamp ด้วย ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติอีกด้วย

สีฟ้า รีสอร์ท (Seafar Resort) ตั้งอยู่ที่ 26/5 หาดตะเภา เกาะกูด อ่าวตะเภา เกาะกูด ประเทศไทย 23000

ที่นี่มีห้องพักหลากหลายสไตล์ไว้บริการ อาทิเช่น การ์เดน สำหรับครอบครัว (Garden Family) Container Room บีช บังกะโล (Beach Bungalow) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ซักรีด ซักแห้ง บริการซักรีด พนักงานต้อนรับ พื้นที่สูบบุหรี่ แม่บ้านทำความ

สะอาดรายวัน กิจกรรม เช่น เรือแคนู จุดบริการทัวร์ ชายหาดส่วนตัว ดำน้ำ ดำน้ำ บริการตั๋ว บริการนวด สระว่ายน้ำ (กลางแจ้ง) สระว่ายน้ำ (กลางแจ้ง) อาบแดด นอกจากนี้ยังมีบริการ Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะ ฟรี Wi-Fi ทุกห้อง นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้

ช่องทางการติดต่อ

สีฟ้า รีสอร์ท เกาะกูด ตราด (Sea Far Resort)

ที่อยู่: 26/5 หมู่ 2 ตำบล เกาะกูด อำเภอ เกาะกูด ตราด 23000

เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 6:00–22:00 น.

โทรศัพท์: 084 933 1206

นี่ก็คือ ไปพักผ่อนริมทะเลที่ สีฟ้า รีสอร์ท เกาะกูด ตราด (Sea Far Resort) ที่นำมาฝากกัน ใครที่อยากจะเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่นี่ ก็ติดต่อไปตามช่องทางที่แนบไว้ให้ด้านบนกันได้เลย แล้วบทหน้าเรามาพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปสรรหามาฝากกันได้อีกในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง เราต้องมาติดตามกันต่อ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

5 สถานที่น่าเที่ยวใกล้ชายหาดหัวหิน

ชายหาดหัวหิน สถานที่ตากอากาศยอดนิยมของคนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ชายหาดหัวหินก็ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาตลอด บทนี้จึงขอนำ 5 สถานที่น่าเที่ยวใกล้ชายหาดหัวหิน มาฝากทุกคนกัน ใครที่อยากจะไปเที่ยวที่ชายหาดหัวหินและสถานที่น่าเที่ยวใกล้ๆกันแล้ว เราเดินทางไปที่ หัวหิน ด้วยกันเลย

1. วัดเขาตะเกียบ

  วัดเขาตะเกียบ เป็นวัดที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของหัวหิน ซึ่งตั้งอยู่บนเขาตะเกียบ ที่มีโขดหินสวยงามยื่นยาวออกไปในทะเล รายล้อมด้วยเห็นวิวสวยๆ ของทะเลได้อย่างสวยงามมาก ทำให้ที่นี่เป็นอีกจุดชมวิวที่น่าประทับใจ ภายในวัดประดิษฐาน พระเขี้ยวแก้ว และยังมีเก๋งจีนกับ องค์เจ้าแม่กวนอิมพันมือ ขนาดใหญ่อีกด้วย

ที่อยู่ : ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พิกัด : https://goo.gl/maps/YHoCNHaUFFcaXV4U8

เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

โทร : –

เว็บไซต์ : –

• อุทยานราชภักดิ์

อุทยานราชภักดิ์ เป็นที่ตั้งของ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ รูปหล่อสำริดขนาด 13.9 เมตร ได้แก่ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (สมัยกรุงสุโขทัย), สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (สมัยกรุงศรีอยุธยา), สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (สมัยกรุงศรีอยุธยา), สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (สมัยกรุงธนบุรี), พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์), พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)

ที่อยู่ : สวนสนประดิพัทธ์ ถนนเพชรเกษม ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พิกัด : https://goo.gl/maps/XnhzLkz8m6AgkMY16

เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.

โทร : 0-3290-0607

เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/rajabhaktipark

• วัดห้วยมงคล

วัดห้วยมงคล เป็นสถานที่ประดิษฐาน หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่ามาหัวหินทั้งทีต้องไม่พลาดมาสักการะขอพร โดยมีความเชื่อกันว่า มาไหว้ขอพรหลวงปู่ทวดแล้วจะช่วยให้คลาดแคล้วจากภัยอันตรายทั้งปวง และขอโชคลาภ

   นอกจากนี้ ภายในวัดยังมี ช้างเอราวัณสามเศียร สร้างจากไม้ 9 ชนิด ช่วยปกป้องคุ้มครองตามลักษณะไม้มงคล นิยมมาโยนเหรียญเข้าปากของช้างเอราวัณ รวมถึงเดินลอดท้องช้างเอราวัณ ตามความเชื่อ อีกทั้งยังมี ไอ้ไข่จำลอง แกะสลัก จากต้นตะเคียนยักษ์ 1,000 ปี ซึ่งมีความสูง 3 เมตร ให้ได้มาขอพรกันอีกด้วย

ที่อยู่ : ถนนห้วยมงคล ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พิกัด : https://goo.gl/maps/vCKBGUEZSmrCuHMN7

เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

โทร : 08-6412-9051

เว็บไซต์ :https://www.facebook.com/WatHuayMongkol

• ตลาดฉัตรศิลา และ ตลาดโต้รุ่งหัวหิน

แหล่งรวมชีวิตชีวาของหัวหินในช่วงกลางคืน ร้านค้านับร้อยเปิดเรียงตัวกันท่ามกลางทางเดินแคบๆ จาก ตลาดโต้รุ่งหัวหิน เดินต่อไปเชื่อมกับ ตลาดฉัตรศิลา ตลาดกลางคืนสไตล์ย้อนยุค มีทั้งของกิน ร้านอาหาร ของที่ระลึกหลากหลายแบบ อาหารทะเลต่างๆ ไอศกรีม โรตี ข้าวโพดปิ้ง และอีกมากมายมีตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย สายถ่ายรูปสตรีท ก็ต้องห้ามพลาดที่นี่

ที่อยู่ : ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พิกัด : https://goo.gl/maps/3JJfXjFuTDkXtHdZ9

เปิดให้เข้าชม : 17.00-23.00 น.

โทร : –

เว็บไซต์ : –

• หาดหัวหิน

  ชายหาดหัวหิน ทะเลใกล้ๆกรุงเทพฯ ที่แค่ขับรถมาไม่ถึง 3 ชั่วโมง ทะเลก็มาอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ใครอยากจะมาเดินเล่นย่ำผืนทรายนุ่มๆ ให้สบายเท้า เดินเลาะเรียบหาดรับลมทะเลที่แสนเย็นสบายอารมณ์ในวันหยุดพักผ่อน  กิจกรรมยอดนิยมที่นี่ ก็คือ ขี่ม้าเดินเลียบหาด ได้บรรยากาศหัวหินแบบคลาสสิคไปอีกด้วย

ที่อยู่ : อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พิกัด : https://goo.gl/maps/XvzZ76sAhQJmuobM7

เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน

โทร : –

เว็บไซต์ : –

นี่ก็คือ 5 สถานที่น่าเที่ยวใกล้ชายหาดหัวหิน ที่นำมาฝากกัน ใครที่อยากจะไปเที่ยวที่น่าเที่ยวทั้ง 5 แห่งนี้ ก็ติดต่อไปตามช่องทางที่จะแนบไว้ให้ด้านบนกันได้เลย แล้วบทหน้าเรามาพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปสรรหามาฝากกันได้อีกในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง เราต้องมาติดตามกันต่อ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน