Categories
เที่ยวภาคเหนือ

ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ แม่ฮ่องสอน

                     พอย่างเข้าหน้าหนาว อากาศเย็นสบาย ดอกไม้เมืองหนาวต่างก็พร้อมใจกันบานสะพรั่ง เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ไปชมความงามกันมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ ทุ่งดอกบัวตอง ที่ดอยแม่อูคอ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพราะดอกบัวตองจะบานเต็มที่และสวยงามสุดๆ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ถ้าอยากรู้ว่าที่นี่จะสวยงามแค่ไหน ก็ตามเรามาดูกันได้เลย

                    ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ ตั้งอยู่ที่ ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เป็นทุ่งดอกไม้ที่มีพื้นที่กว่า 500 ไร่ บนความสูงกว่า 1600 เมตร โอบล้อมด้วยหุบเขาสลับซับซ้อน และมีดอกบัวตองให้ชมตั้งแต่ทางขึ้นไปจนถึง จุดชมวิวทุ่งดอกบัวตอง ที่จัดว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้

                    โดยบนยอดดอยแม่อูคอ จะมีจุดชมวิวและศาลาชมวิว ซึ่งเป็นมุมสวยๆ ที่สามารถมองเห็นทุ่งดอกบัวตอง ได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว ทั้งยังมีมุมให้ถ่ายรูปกันอีกเยอะมากๆ แม้แต่ทางเดินที่ขึ้นไปยังจุดชมวิวก็มีต้นบัวตองที่สูงจนเหมือนเป็นซุ้มอุโมงค์ ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่สามารถแวะถ่ายรูปได้ด้วยเช่นกัน

                     นอกจากนี้ สำหรับใครที่เป็นสายแคมป์ปิ้งอยากมานอนกางเต็นท์ชมวิว ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้คอยบริการ ทั้งลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และลานจอดรถ ซึ่งขอบอกเลยว่าถ้าได้มาชมวิวที่นี่ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินจะได้ฟีลที่สุดยอดมากๆ เพราะจะได้เห็นแสงอาทิตย์พาดผ่านภูเขาและทุ่งดอกไม้ ทั้งสวยงามและได้บรรยากาศสุดโรแมนติกในแบบที่หาได้ยากจากที่อื่น พอตื่นมาในช่วงเช้า ก็จะได้ชมดอกไม้สวยๆ บนยอดดอยพร้อมกับสัมผัสอากาศเย็นสบาย และหากโชคดีก็อาจจะได้เห็นหมอกสีขาวลอยแผ่ปกคลุมเต็มยอดดอยอีกด้วย

                  ที่ดอยแห่งนี้มีการจัดงาน เทศกาลดอกบัวตองบาน ในช่วงปลายปี โดยภายในงานก็จะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมชาติพันธุ์ของชาวไทใหญ่ กะเหรี่ยง และม้ง ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันด้วย ซึ่งสำหรับใครที่อยากจะมาชมดอกบัวตองได้อย่างสวยงามเต็มที่ แนะนำว่าต้องมาให้ถูกช่วงเวลาด้วย เพราะดอกไม้สวยๆ นี้จะบานจนเต็มหุบเขา ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม โดยระยะในการบานของดอกไม้ ก็จะมีเวลาค่อนข้างจำกัด คือบานเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ก่อนเดินทางมาเที่ยวชมจึงควรโทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อน

               นอกจากมาเที่ยวทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอแล้ว ก็ยังสามารถท่องเที่ยวพักผ่อนในสถานที่ใกล้เคียงอื่นๆ เช่น อ่างเก็บน้ำหนองเขียว น้ำตกแม่สุรินทร์ วัดต่อแพ บ้านเมืองปอน อนุสรณ์สถานไทย- ญี่ปุ่น และ ตลาดม้ง ได้อีกด้วย

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคเหนือ

เที่ยวเชียงราย แวะถ่ายรูปวัดไหนดี

                    ถ้าพูดถึงที่เที่ยวในจังหวัด เชียงราย นอกจากธรรมชาติอันงดงามและบรรยากาศอันสุดชิลล์แล้ว วัดสวย ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของจังหวัดเหนือสุดแดนสยามแห่งนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นจังหวัดที่มีวัดอยู่เยอะมากๆ ทั้งยังสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใครอีกด้วย วันนี้เราเลยจะพาไปชมตัวอย่างวัดในเชียงรายที่ไม่ควรพลาด มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง

วัดร่องขุ่น
ได้ชื่อว่าเป็นวัดสวยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกในนามของ White Temple ผลงานของจิตรกรชื่อดังของไทยอย่าง อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเป็นพุทธศิลป์เพื่อแผ่นดิน เป็นวัดที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะร่วมสมัย โดยจะเน้นสีขาวเป็นหลัก และตกแต่งด้วยกระจกเงินเพื่อให้ดูมีมิติมากขึ้น

วัดร่องเสือเต้น
อีกหนึ่งวัดสวยที่ใครได้มาเชียงรายจะต้องแวะมาสักการะและถ่ายรูปให้ได้สักครั้ง ด้วยความโดดเด่นของวิหาร ซึ่งสวยงามอลังการเป็นอย่างมาก สร้างขึ้นด้วยศิลปะร่วมสมัย เน้นสีน้ำเงินตัดกับสีทอง เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนวัดอื่นๆ ภายในวิหารประดิษฐานพระประธานสีขาวองค์ใหญ่ที่มีความสูงถึง 20 เมตร ซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง

วัดห้วยปลากั้ง
วัดแห่งนี้เป็นวัดสวยในจังหวัดเชียงรายที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ทั้งยังโดดเด่นไปด้วยโชคธรรมเจดีย์ ที่มีความสูงถึง 9 ชั้นด้วยกัน สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบจีนผสมกับล้านนา จึงมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในประเทศไทยประดิษฐานอยู่ด้วย และว่ากันว่าใครได้มาไหว้ขอพรที่นี่มักจะสมหวังดังใจเสมอ

วัดสันติคีรี
เป็นวัดสวยท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงาม ทั้งยังประดิษฐานพระบรมธาตุเจดีย์ครินทราสถิตมหาสันติคีรี ทรงล้านนาประยุกต์ รวมถึงยังมีอุโบสถสวยงามที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกันด้วย วัดแห่งนี้จึงเปรียบเป็นศูนย์รวมศรัทธาในพุทธศาสนาของชาวดอยแม่สลอง และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์อย่างมาก

วัดห้วยทรายขาว
เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2400 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและแปลกตา เพราะมีสีสันสดใสสวยงามแตกต่างจากวัดอื่นๆ ทั้งยังมีความละเอียดประณีตเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น รูปปั้นผีเสื้อสมุทร ช้าง ยักษ์ บันไดนาค ดอกบัวยักษ์ และครุฑขี่จรวด เป็นต้น

             ใครที่รู้ตัวว่าเป็นนักท่องเที่ยวสายบุญ และอยากจะไปเที่ยวแล้วได้ทั้งบุญได้ทั้งรูปถ่ายสวยๆ มาอวดเพื่อนๆ ชาวโซเชียลกันล่ะก็ อย่าลืมหาเวลามาเที่ยวแสวงบุญกันที่วัดสวยๆ เหล่านี้ในจังหวัดเชียงรายกันนะ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคเหนือ

อัปเดตที่เที่ยวปาย 2023

             เมืองเล็กในหุบเขาจังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่าง ปาย แม้จะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ก็เปี่ยมด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้ใครต่อใครต่างก็โหยหาอยากจะลองไปเที่ยวให้ได้สักครั้ง วันนี้เราเลยจะมาแนะนำที่เที่ยวปาย ฉบับอัปเดตปี 2023 ใครมีแพลนจะเที่ยวปายห้ามพลาดเด็ดขาด

จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล
จุดชมวิวที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดหากไปเที่ยวปาย คือ จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล ซึ่งความพิเศษของการไปดูทะเลหมอกที่นี่ก็คือ ภาพของทะเลหมอกตัดกับดอกบัวตองสีเหลืองอร่าม ที่พร้อมใจกันบานสะพรั่งในช่วงฤดูหนาว บอกเลยว่าเป็นภาพที่สวยเกินบรรยาย และน่าประทับใจมากๆ แต่ถ้าไปช่วงฤดูอื่น โดยเฉพาะหน้าฝน เราก็จะได้เห็นภาพทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้กัน แต่เส้นทางจะค่อนข้างอันตรายกว่า และต้องนั่งรถโฟร์วีลของชาวบ้านขึ้นไป

น้ำพุร้อนไทรงาม
ส่วนใครที่เป็นสายชิลล์ เราขอชวนไปรีแลกซ์กัน ณ สถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนของปาย นั่นก็คือ น้ำพุร้อนไทรงาม ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองปายไป 12 กิโลเมตรเท่านั้น โดยบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นบ่อน้ำที่ผุดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ น้ำจึงใสเป็นสีเขียวมรกต และมีอุณหภูมิที่อุ่นกำลังดี เหมาะแก่การนั่งแช่นอนแช่ผ่อนคลายเป็นที่สุด

บ้านสันติชล
ใครอยากไปเที่ยวในสถานที่ที่ให้ฟีลเหมือนได้ไปเที่ยวเมืองจีนจริงๆ ขอแนะนำให้มาที่ บ้านสันติชล หมู่บ้านจีนยูนนานซึ่งมีบ้านดินตั้งเรียงรายอยู่ในหุบเขา โดยบ้านเรือนและอาคารต่างๆ จะเป็นสไตล์จีนยูนนานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ร้านน้ำชา ร้านอาหาร ร้านขายของ รวมถึงเครื่องรางต่างๆ และไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ การไปลองโล้ชิงช้าไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน

ถนนคนเดินปาย
ถนนคนเดิน นับเป็นที่เที่ยวปายอีกแห่งที่พลาดไม่ได้ โดยด้านในจะปิดการจราจร ทำให้ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าที่หลากหลาย ทั้งร้านกาแฟน่ารักๆ ร้านอาหารดีๆ รวมไปถึงอาหารพื้นเมืองแบบสตรีทฟู้ดอีกเพียบ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งฮิปๆ สำหรับนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

สะพานบุญโขกู้โส่
สะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านแพมบก ในอำเภอปาย เป็นสะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวคดเคี้ยวไปในทุ่งนาข้าว ทั้งยังมีฉากหลังเป็นวิวภูเขาที่สวยงามมากๆ จนทำให้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของเมืองปายที่ห้ามพลาดจริงๆ

             ใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวเมืองปายมาก่อน หรือเคยไปแต่นานมากแล้ว ลองหาเวลากลับไปเยี่ยมปายกันอีกสักครั้ง รับรองว่าไปรอบนี้จะได้ความประทับใจที่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคเหนือ

เทศกาลบอลลูนนานาชาติ ที่สิงค์ปาร์ค จ.เชียงราย

              เทศกาลบอลลูนนานาชาติ (International Balloon Fiesta) ถือเป็นเทศกาลท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย ซึ่งจะมีการจัดขึ้นทุกปีในช่วงต้นๆ ปี ใกล้กับวันวาเลนไทน์ โดยจะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมบอลลูนที่นี่กันมาก และในแต่ละปีก็จะมีคู่รักมากกว่า 20 คู่ได้มีโอกาสขึ้นบอลลูนไปตะโกนบอกรักกันบนท้องฟ้า และชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามของจังหวัดเชียงรายได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว

                บรรยากาศสุดโรแมนติกที่ว่านี้ ได้ถูกจัดขึ้นบริเวณเหนือท้องฟ้าของ สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย หรือที่หลายๆ คนเรียกกันว่า ไร่บุญรอด โดยท้องฟ้าในช่วงเวลานั้นจะเต็มไปด้วยสีสันของบอลลูนจากนานาประเทศลอยฟ่องแข่งกันอวดความสวยงามอลังการ งานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ สิงห์ปาร์คนี้ ถือเป็นงานเทศกาลบอลลูนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าถ้าใครได้ควงคู่กันมากับคนรัก บรรยากาศก็จะยิ่งทวีความหวานขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า

                แน่นอนว่าไฮไลท์ของงานนี้ก็คือ บอลลูน ซึ่งภายในงานก็จะมีการแสดงบอลลูนแฟนซีจากหลายประเทศกว่าหลายสิบลูก ทั้งยังมีการสาธิตให้นักท่องเที่ยวได้ชมการเป่าบอลลูนแบบใกล้ๆ ทำให้ดูกันสดๆ ต่อหน้าต่อตา พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นบอลลูนเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบในมุมสูงแบบ 360 องศากันเลย ใครที่สนใจก็สามารถจับจองเวลาและคิวกันได้ตามสะดวก

                นอกจากได้ชมบอลลูนกันแบบจุใจแล้ว ภายในงานยังมีเทศกาลดนตรีจากศิลปินมากมายหมุนเวียนกันมาสร้างเสียงเพลงเพราะๆ ให้กับผู้ที่มาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย และก็ยังมีจุดเล่นกิจกรรมต่างๆ โซนนั่งชิลล์ และโซน  Flower Bloom หรือ แปลงดอกไม้ตามฤดูกาลที่แข่งกันเบ่งบานอย่างสวยงาม รับรองได้เลยว่ามางานนี้คุ้มสุดๆ ในงานนักท่องเที่ยวยังจะได้เพลิดเพลินไปกับมหกรรมอาหารเลิศรสจากร้านอาหารทั่วประเทศ ที่รวมตัวกันมาสร้างความอิ่มอร่อยให้กับทุกคนท่ามกลางบรรยากาศของลมหนาวและธรรมชาติอันงดงาม

             และถึงแม้จะเป็นช่วงที่ไม่ได้มีการจัดงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ แต่ทางสิงห์ปาร์ค เชียงราย ก็ยังคงเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ ใครที่สนใจพาคนพิเศษไปสัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติก ก็สามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ตลอด ลองนึกภาพบรรยากาศของลมหนาวเย็นๆ ท่ามกลางวิวภูเขาสูงๆ บวกกับแสงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินดูสิว่าจะฟินขนาดไหน ยิ่งถ้าได้เห็นบอลลูนนับสิบนับร้อยลอยเรียงรายกันไปบนท้องฟ้าด้วยล่ะก็ ยิ่งโรแมนติกอย่าบอกใคร จึงพูดได้คำเดียวเลยว่า ที่นี่เหมาะสำหรับการไปเที่ยวในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์เป็นที่สุด

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคอีสาน เที่ยวภาคเหนือ

ทุ่งดอกไม้ถ่ายรูปสวย

                 สถานที่เที่ยวสวยๆ ในประเทศไทย นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวล่องแก่ง ปีนผา บุกป่า ฝ่าคลื่น หรือกางเต็นท์นอนดูดาว ตื่นเช้ามาดูทะเลหมอกแล้ว ก็ยังมีสถานที่ให้ได้เที่ยวเล่นกันแบบชิลล์ๆ อย่างการเดินเล่นชมทุ่งดอกไม้สวยๆ แถมยังถ่ายรูปออกมาเป๊ะปัง ได้ฟีลโรแมนติกไม่แพ้ที่ไหนๆ อีกด้วย ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวสไตล์เบาๆ แบบนี้ ขอเชิญปักหมุดแล้วตามเรามาได้เลย

  1. ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน
    นับเป็นหนึ่งที่เที่ยวที่สายถ่ายรูปกับดอกไม้ต้องห้ามพลาด โดยเหล่าบรรดาดอกบัวตองสีเหลืองสด จะพากันบานสะพรั่งอวดความสดใส พร้อมเป็นพรอพให้ถ่ายรูปกันได้อย่างเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงธันวาคมของทุกปี ใครชอบความสดใสของดอกไม้สีเหลืองทองอร่อม ก็ต้องเตรียมจัดสรรเวลาว่างให้ตรงกับช่วงนี้กันด้วยนะ
  • ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ จ.เชียงใหม่
    ส่วนใครที่อยากมาสูดอากาศดีๆ บนยอดดอย พร้อมกับถ่ายรูปสวยๆ กับดอกไม้สีม่วงละมุนตา ก็ต้องมาที่ทุ่งดอกไฮเดรนเยียที่โครงการหลวงขุนแปะ ซึ่งดอกไม้จะบานเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี รับรองเลยว่ามาทีนี่จะได้ฟีลเหมือนไปเที่ยวเมืองนอกยังไงอย่างงั้น
  • ทุ่งดอกทานตะวัน ไร่มณีศร จ.นครราชสีมา
    นับเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ยอดฮิตตลอดกาล ที่ใครๆ ก็อยากมาถ่ายรูปด้วยไม่ขาดสาย นั่นก็คือ ทุ่งดอกทานตะวัน ส่วนสถานที่แนะนำก็คือ ที่ไร่มณีศร เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มากนัก ใครไม่สะดวกไปเที่ยวจังหวัดไกลๆ สามารถขับรถไปชิลล์กันได้สบายมาก และอีกหนึ่งความพิเศษของที่นี่ก็คือ นอกจากเราจะได้เจอกับทุ่งทานตะวันที่สวยงามแล้ว ยังมีฉากหลังเป็นเมืองอิตาลี ที่ได้บรรยากาศเหมือนต่างประเทศสุดๆ
  • ลานต้นคริสต์มาส ภูเรือ จ.เลย
    ในช่วงส่งท้ายปลายปี หากใครยังไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหน ขอแนะนำที่จังหวัดเลย เพราะที่นี่เค้ามีเทศกาลคริสต์มาสภูเรือ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยจะมีการจัดแสดงต้นคริสต์มาสสีแดงสดให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงามและถ่ายรูปเป็นจำนวนหลายหมื่นต้น นอกจากนี้ก็ยังการจำหน่ายสินค้า OTOP มีการจัดแสดงดนตรี และถนนอาหารให้นักท่องเที่ยวได้ชมและชิมกันอย่างจุใจ เพราะงานจะเริ่มจัดตั้งแต่ประมาณเดือนพฤศจิกายน ยาวไปจนถึงเดือนมกราคมของปีถัดไปเลยทีเดียว

             ใครที่เป็นสายหวาน ชอบถ่ายรูปกับดอกไม้ สายลม และแสงแดด ลองหาเวลาไปเที่ยวสถานที่ที่ปักหมุดไว้ให้นี้ รับรองว่าจะต้องฟินและอินกันสุดๆ แน่นอน

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคกลาง เที่ยวภาคอีสาน เที่ยวภาคเหนือ เที่ยวภาคใต้

แนะนำที่เที่ยวฟินๆ ช่วงปลายฝนต้นหนาว

                ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นช่วง ปลายฝนต้นหนาว ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้เที่ยวชมความงามของทะเลหมอก และสูดอากาศสดชื่นกันให้ชุ่มฉ่ำปอด แต่จะมีสถานที่ไหนที่เราสามารถไปชาร์จแบตให้ธรรมชาติเยียวยาได้บ้าง เรามีข้อมูลดีๆ มาแนะนำ

  1. ไร่ชาฉุยฟง / เชียงราย
    นับเป็นไร่ชายอดฮิตที่สามารถเที่ยวได้ทั้งหน้าฝนและหน้าหนาวเลยทีเดียวสำหรับ ไร่ชาฉุยฟง โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะเราจะได้วิวสวยๆ ของไร่ชาที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนเป็นพรอพเก๋ๆ ให้ได้ถ่ายรูปกันแบบแบบพาโนราม่า นอกจากนี้ก็ต้องไม่พลาดลองชาเขียวปั่นกับชีสเค้กชาเขียวที่คาเฟ่ของไร่ชา ซึ่งใช้ชาเขียวจากไร่เองเลยด้วย
  • ผาชะนะได / อุบลราชธานี

เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ ผาชะนะได กันมาบ้างจากข่าวพยากรณ์อากาศ เนื่องจากที่นี่เป็นผาที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของประเทศไทย จึงเป็นจุดที่พระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศ ผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตของ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เมื่อได้ขึ้นไปบนหน้าผาแล้วมองลงมา จะเห็นวิวเบื้องล่างที่สวยงามอลังการมาก นั่นคือวิวของแม่น้ำโขงที่กั้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับลาว ซึ่งเต็มไปด้วยป่าไม้เขียวขจี และทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขง

  • ดอยหัวหมด / ตาก
    ดอยหัวหมด เป็นจุดชมทะเลหมอกชื่อดังของจังหวัดตาก ตั้งอยู่ในเขตอำเภออุ้มผาง หากมาเที่ยวที่นี่เราจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดมากๆ โดยสามารถขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือผืนทะเลหมอกยามเช้า พร้อมกับชมวิวแบบพาโนราม่าได้ โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว แนะนำให้ขึ้นไปดูทะเลหมอกในช่วงตี 5 ถึง 6 โมงเช้า จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด นอกจากทะเลหมอกสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีทุ่งดอกไม้สีชมพู ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งทั่วดอย จนทำให้ ดอยหัวหมด ในช่วงเวลานั้น ถูกเรียกว่า ดอยชมพู เลยทีเดียว
  • ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง / ยะลา

ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ภาคอื่นๆ เลย สำหรับทะเลหมอก อัยเยอร์เวง ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่สำคัญคือ มีทะเลหมอกให้เราได้เห็นกันแทบทั้งปีอีกด้วย และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ การเดินบน สกายวอล์คอัยเยอร์เวง ซึ่งเป็นพื้นกระจกใส ตั้งอยู่บนระดับความสูงกว่า 2,038 ฟุต ยาว 61 เมตร นับว่าเป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในอาเซียนเชียวนะ

                แนะนำกันไปครบถ้วนแล้ว สำหรับที่เที่ยวเด็ดๆ ในการชมทะเลหมอกในช่วงปลายฝนต้นหนาว ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง และใต้ ใครสะดวกไปที่ไหน ก็เชิญได้ตามอัธยาศัย หรือใครอยากจะไปให้ครบทุกที่ก็ไม่ว่ากันจ้า

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
tiewkanna เที่ยวภาคเหนือ

ไปเที่ยวชม พิพิธบางลำพู กรุงเทพฯ ย้อนอดีตวันวาน

พิพิธบางลำพู ตั้งอยู่บนถนนพระอาทิตย์ ริมคลองบางลำพู ใกล้กับป้อมพระสุเมรุ โดยกรมธนารักษ์ดำเนินการบูรณะซ่อมแซมอาคาร โรงพิมพ์คุรุสภา (โรงเรียนช่างพิมพ์วัดสังเวช) ซึ่งเป็นโรงพิมพ์คุรุสภาและเป็นสถานที่ฝึกสอนช่างพิมพ์แห่งแรกของประเทศไทย มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 และได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานอาคารจากกรมศิลปากรเมื่อปี 43 บทนี้จึงขอนำ ไปเที่ยวชม พิพิธบางลำพู กรุงเทพฯ ย้อนอดีตวันวาน มาฝากทุกคนกัน ใครที่อยากจะเดินทางไปเที่ยวชมพิพิธบางลำพูกันแล้ว เราเดินทางไปที่พิพิธบางลำพู ถนนพระอาทิตย์ ริมคลองบางลำพูด้วยกันเลย

พิพิธบางลำพู กรุงเทพฯ เปิดเป็น แหล่งท่องเที่ยวบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ และศูนย์การเรียนรู้เชิงการศึกษาวัฒนธรรมชุมชน  เป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ซึ่งประยุกต์การแสดงวัตถุและการเล่าเรื่องเชิงประวัติศาสตร์เข้ากับการแสดงวิถีชุมชนบางลำพูเดิม

พิพิธภัณฑ์ออกแบบพื้นที่ภายในแบบ “ยูนิเวอร์แซล ดีไซน์” เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือเด็ก พร้อมจัดทำอักษรเบลล์ไว้ให้ด้วยเพื่อบรรยายรายละเอียดของส่วนจัดแสดงให้แก่ผู้พิการทางสายตา และอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างประเทศด้วยการจัดทำบรรยายเสียงข้อมูล 7 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อังกฤษ เยอรมัน และภาษาฝรั่งเศส  โดยการ จัดแสดงจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ตามอาคาร 2 หลัง คือ อาคารไม้เก่า และอาคาปูนรูปตัว L  ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการให้สอดคล้อง ตามเนื้อหาประวัติศาสตร์ หลายพื้นที่ ในพิพิธภัณฑ์ยังมีเทคโนโลยีทันสมัยอีกหลายอย่างที่จะช่วยให้ผู้เข้าชม มีส่วนร่วมในการเลือกดูข้อมูลด้วย 

โดยอาคารแบบออกเป็นสองชั้นและแบ่งเป็นห้องนิทรรศการต่างๆ   ดังนี้

บริเวณชั้น 1  อาคารปูน เดินชมได้ตามอัธยาศัย

เอกบรมองค์ราชินี

จัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคล 82 พรรษา ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9  เนื่องจากอาคารหลังนี้ก่อสร้างขึ้นในปี 2475 ซึ่งเป็นปีประสูติของพระองค์

ป้อมเขตขัณฑ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ที่ทำให้เห็นความเป็นมาของเมื่อแรกเริ่มสร้างกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี กลางห้องมีแนวกำแพงเก่าที่จำลองขึ้น ทำให้ทราบเรื่องราวของ “กำแพงป้องธานี”เกี่ยวกับการสร้างกำแพงพระนครและเกร็ดความรู้เรื่องการหล่ออิฐด้วยเทคนิคช่างโบราณ มีกำแพงเมืองแล้วก็ต้องมี “คูคลองล่องลำนำ”คูเมืองรอบพระนคร และคลองสำคัญต่างๆ ในกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ทำให้เกิดย่านชุมชนย่านการค้าต่างๆขึ้น

บริเวณชั้น 2 อาคารปูน จะมีการนำชมเป็นรอบๆละ 30 นาที มีเจ้าหน้าที่นำพาและให้ข้อมูล

เริ่มจากห้องนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับความเป็นมา และบทบาทหน้าที่ของกรมธนารักษ์ที่จะดูแลรักษาทรัพย์สินของแผ่นดินทั้งทรัพย์สินมีค่า ที่สะท้อนวัฒนธรรมและประเพณีของชาติ ที่ดิน หรือเหรียญกษาปณ์ ได้เห็นขั้นตอนกว่าจะมาเป็นเหรียญกษาปณ์ใช้หมุนเวียน ในท้องตลาดได้นั้นต้องผ่านกรรมวิธีอะไรบ้างรวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดสรรดูแลที่ราชพัสดุอีกด้วย

ย่ำตรอกบอกเรื่องเก่า

แนะนำชุมชนและตรอกซอกซอยต่างๆ ของบางลำพูที่คนภายนอกอาจไม่เคยรู้ อาทิ การปักชุด โขนของชุมชนตรอก เขียนนิวาสและ ตรอกไก่แจ้, บ้านดุริยประณีต เจ้าตำรับแห่งดนตรีไทยในชุมชนวัดสังเวชวรวิหาร, เครื่องถม, ตีทองคำเปลว, การแทงหยวก

รายละเอียดเพิ่มเติม

พิพิธบางลำพู  ตั้งอยู่บนถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ

เปิดเฉพาะวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดให้บริการทุกวันจันทร์)

เวลา10.00-18.00 น. และมีค่าเข้าชม 100 บาท เมื่อไปถึงควรไปติดต่อรับบัตรคิวได้ที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าอาคารทั้งนี้จะเปิดเข้าชมเป็นรอบ ทุกๆ 30 นาที โดยเข้าชมรอบแรกเวลา 10.00 น. และเข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16.00 น. ทั้งนี้ผู้ชมสามารถเดินดูห้องจัดแสดงชั่วคราว (ชั้น 1 อาคารปูน) ได้ตามอัธยาศัยโดยไม่จำกัด เวลาภายในวันที่ระบุในบัตรเข้าชม ยกเว้นส่วนนิทรรศการถาวร (อาคารไม้ และชั้น 2 อาคารปูน) ซึ่งทางอาคารจำเป็นต้องสงวนสิทธิ์ใน การเข้าชมเฉพาะรอบเวลาที่ระบุไว้ในบัตรเข้าชมเท่านั้น

นี่ก็คือ ไปเที่ยวชม พิพิธบางลำพู กรุงเทพฯ ย้อนอดีตวันวาน ที่นำมาฝากกัน ใครที่อยากจะเดินทางไปเที่ยวชมที่พิพิธบางลำพูแห่งนี้ ก็ติดต่อไปตามช่องทางที่แนบไว้ให้ด้านบนกันได้เลย แล้วบทหน้าเรามาพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปสรรหามาฝากกันได้อีกในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง เราต้องมาติดตามกันต่อ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
tiewkanna เที่ยวภาคเหนือ

วัดพระแก้วดอนเต้า สุชาดาราม ลำปาง

วัดพระแก้วดอนเต้า สุชาดาราม ลำปาง

                   เป็นที่รู้กันดีว่าเมืองรถม้าอย่าง ลำปาง นั้นเป็นจังหวัดน่ารักๆ ที่มีสถานที่สวยๆ น่าแวะเวียนไปเที่ยวชมอยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ วัดพระแก้วดอนเต้า สุชาดาราม ซึ่งเป็นย่านอยู่อาศัยที่สงบร่มรื่น และใกล้กับสำนักงานป่าไม้ สถานราชการอันเก่าแก่ของลำปาง

                 เดิมที วัดพระแก้วดอนเต้า กับ วัดสุชาดาราม นั้นเป็นคนละวัดกัน เพียงแต่ตั้งอยู่ในพื้นที่ติดกัน ต่อมาภายหลังได้จึงมีประกาศจากกระทรวงศึกษาธิการให้รวมเป็นวัดเดียวกัน ได้ทำการรื้อกำแพงกั้นเขตวัดออก และตั้งชื่อใหม่เป็น วัดพระแก้วดอนเต้า สุชาดาราม จนถึงปัจจุบัน

                วัดพระแก้วดอนเต้า สุชาดาราม เป็นวัดขนาดใหญ่ เมื่อเดินเข้าไปด้านใน สิ่งที่จะเห็นเป็นอันดับแรกก็คือ หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ รวมถึงศาลเจ้าแม่สุชาดา และศาลเจ้าพ่อทิพย์ช้าง วีระบุรุษแห่งเขลานคร (นครลำปาง) ผู้ปกป้องนครลำปาง และกอบกู้อิสรภาพให้กับชาวลานนาไทยในอดีต

               วัดพระแก้วดอนเต้า สุชาดาราม ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติมายาวนานกว่า ๕๐๐ ปี และเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตนานถึง ๓๒ ปี โดยมีจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า พระเจ้าสามฝั่งแกนเจ้าเมืองเชียงใหม่ ได้จัดขบวนช้างไปรับพระแก้วมรกตจากเชียงราย เพื่อจะอัญเชิญมาประดิษฐานยังนครเชียงใหม่ แต่พอมาถึงทางแยกเมืองนครลำปาง ช้างก็เกิดตื่นวิ่งเตลิดเข้าไปในนครลำปาง จนในที่สุดพระเจ้าสามฝั่งแกนต้องยินยอมให้พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้วดอนเต้าแห่งนี้เป็นเวลา ๓๒ ปี ก่อนจะอัญเชิญไปประดิษฐานยังเมืองเชียงใหม่ในเวลาต่อมา

              ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมทางศาสนาให้ได้ชมกันอีกมากมาย ทั้งวิหารหลวงที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย วิหารพระเจ้าทองทิพย์ที่สร้างโดยพระนางจามเทวี วิหารลายคำสุชาดารามฝีมือช่างเชียงแสน และวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่มีอายุเก่าแก่พอๆ กับวัด ส่วนภายในก็ยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม รวมถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งล้านนา อันเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัตถุแบบล้านนาไว้ให้ได้ชมกันอีกด้วย

              ถ้าใครได้มีโอกาสมาเที่ยวเมืองลำปาง นอกจากการนั่งรถม้าชมเมืองอันเป็นธรรมเนียมยอดฮิตแล้ว ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวชมความสวยงามของศิลปะล้านนาที่หาชมได้ยาก พร้อมกับไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองกันได้ที่ วัดพระแก้วดอนเต้า สุชาดาราม แห่งนี้ หากนั่งรถม้าจากห้าแยกหอนาฬิกา ก็แค่บอกเค้าว่าไปวัดพระแก้วดอนเต้า เพียงเท่านี้ก็จะได้ชมความงดงามสุดตระการตาของวัดกันแล้ว

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคเหนือ

น้ำตกแก่งโสภา ณ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง

                  น้ำตกแก่งโสภา เป็นน้ำตกแสนสวยที่ซ่อนตัวอยู่ในลำน้ำเข็ก ภายในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เขตเชื่อมต่อ อ.วังทอง และ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เป็นน้ำตกที่สายน้ำไหลดิ่งทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาสูงและมีขนาดกว้าง โดยในช่วงฤดูหนาวน้ำจะใสสะอาดและสวยงามมากเป็นพิเศษ

                  แต่ก่อนน้ำตกแห่งนี้เคยใช้ชื่อว่า น้ำตกแก่งชั้นไดยาน หรือ บันไดยาน ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นตามลักษณะของตัวน้ำตกที่มีความคล้ายกับบันได 3 ขั้น แต่หลังจากปี พ.ศ. 2503 ที่เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น น้ำตกแก่งโสภา ส่วน แก่งโสภา นั้น จริงๆ แล้วเป็นแก่งน้ำอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ทางต้นน้ำของน้ำตกไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร

                 น้ำตกแก่งโสภา ตั้งอยู่บนเส้นทางพิษณุโลก-หล่มสัก พอถึงประมาณกิโลเมตรที่ 71-72 จะมีทางแยกให้เข้าไปต่ออีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตก ซึ่งที่นี่จะเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 70 เมตร เกิดจากลำห้วยเข็กใหญ่ไหลผ่านหน้าผาหินลดหลั่นกันลงไปเป็นชั้นต่างๆ 3 ชั้น แล้วไหลผ่านไปตามแก่งหินมากมายเป็นน้ำตก และมีแอ่งขนาดใหญ่คอยรองรับน้ำอยู่ทางด้านล่าง สภาพทิวทัศน์โดยรอบค่อนข้างร่มรื่น เพราะถูกปกคลุมไปด้วยป่าดิบชื้น

                การเดินทางเข้าไปยังน้ำตกแก่งโสภา จากที่จอดรถจะต้องเดินเท้าต่อเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร ซึ่งภายในอุทยานได้ทำไว้เป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้สามารถเดินเล่นออกกำลังกายเพลินๆ ได้ ถ้าหากเหนื่อยก็ยังมีจุดนั่งพักที่ทำเป็นศาลาขนาดเล็กอยู่โดยรอบอีกด้วย

               ภายในอุทยานยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้ให้อย่างครบครับ ทั้งห้องน้ำ ร้านค้าสวัสดิการ ซึ่งประกอบไปด้วยร้านอาหาร เครื่องดื่ม และร้านของฝากของที่ระลึกอีกมากมาย นอกจากนี้สำหรับใครที่ต้องการที่พักก็ยังมีบ้านพักสวัสดิการไว้ให้บริการอยู่หลายหลัง พร้อมศูนย์บริการข้อมูลภายใน เรียกว่าทั้งสะดวกทั้งปลอดภัยมากๆ เลยทีเดียว

              บริเวณด้านบนของตัวน้ำตกแก่งโสภา ทางอุทยานได้จัดไว้เป็นพื้นที่สำหรับยืนชมความงามของน้ำตกเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเมื่อเราเข้าไปใกล้ๆ ก็จะได้เห็นตัวน้ำตกที่มีขนาดใหญ่มากๆ ได้ยินเสียงน้ำที่ตกลงสู่พื้นหินดังสนั่น และเต็มไปด้วยละอองไอน้ำ ทำให้รู้สึกได้ถึงความรุนแรงของธรรมชาติอย่างแท้จริง ด้วยน้ำตกมีความสูงชันมาก ตัวน้ำตกจึงทำมุม 90 องศาถึง 3 ชั้น ก่อนสายน้ำจะไหลลดหลั่นลงไปเป็นชั้นๆ ตามแนวผา และไหลผ่านแก่งหินคดเคี้ยว บริเวณรอบๆ ตัวน้ำตก ยังสามารถนั่งชมวิวสวยๆ และรับอากาศดีๆ ได้แบบชิลล์ๆ อีกด้วย

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคเหนือ

อุทยานแห่งชาติศรีน่าน

               หากพูดถึงจังหวัดทางภาคเหนือที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางน้ำ หลายคนก็คงจะนึกถึงจังหวัดน่าน กันเป็นอันดับต้นๆ ด้วยภูมิประเทศที่มีเทือกเขาสูงมากมาย และยังมีแม่น้ำสายสำคัญอย่าง แม่น้ำน่าน ไหลผ่าน วันนี้เราเลยจะพาไปเยือน อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ซึ่งมีเนื้อที่กว้างวางกว่า 6 แสนไร่ ครอบคลุมพื้นที่ อ.หมื่น อ.นาน้อย และ อ.เวียงสา จ.น่าน ตามแนว 2 ฟากฝั่งลำน้ำน่าน จนสิ้นสุดที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์

                พื้นที่ส่วนใหญ่ในอุทยานฯ เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน โดยมีเทือกเขาที่สำคัญ ได้แก่ ดอยขุนห้วยฮึก ดอยแปรเมือง ดอยขุนห้วยหญ้าไทร และดอยหลวง ซึ่งยอดเขาขุนห้วยฮึกนั้น นับได้ว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด คือมีความสูงถึง 1,234 เมตร และเทือกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นต้นน้ำของลำน้ำน่านทั้งสิ้น สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของจังหวัดน่านจึงอยู่ตามแนวลำน้ำน่าน และยอดดอยสูงๆ มากมาย

             หนึ่งในนั้นคือ ดอยผาชู้ เป็นยอดดอยที่มีความสวยงาม ตั้งอยู่ด้านหลังที่ทำการอุทยานฯ โดดเด่น สูงตระหง่านท่ามกลางขุนเขาและป่าไม้อันเขียวขจี บนหน้าผาชู้นี้เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำน่านไหลคดเคี้ยวอยู่เบื้องล่าง ทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในฤดูหนาวได้อย่างงดงามมากๆ อีกด้วย

             ยอดดอยอีกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้ดอยผาชู้ นั่นก็คือ ดอยเสมอดาว ซึ่งที่นี่จะมีลานกว้างตามสันเขาที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ในจุดเดียวกัน ยามค่ำคืนยังใช้เป็นจุดกางเต็นท์นอนดูดาวได้อีกด้วย และที่จุดนี้ จะมองเห็นหน้าผาหัวสิงห์อยู่ที่ปลายสันเขา นอกจากจุดชมวิวอันงดงามแล้ว ที่นี่ยังมีประติมากรรมธรรมชาติ อันเกิดจากการกัดกร่อนของลมฝน ทำให้เกิดเป็นเสาดินที่สวยงาม ซึ่งกินพื้นที่กว่า 20 ไร่ เลยทีเดียว

            ส่วนใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นการล่องเรือเที่ยว หรือการลงเล่นน้ำที่ใสสะอาด ที่บริเวณ ปากนาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ก็มีวิวทิวทัศน์อันงดงาม ให้สามารถนั่งเรือชมวิวในอ่างเก็บน้ำได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีบริการบ้านพักแบบเรือนแพไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวด้วย

             จากข้อมูลทั้งหมดของ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ด้วยสภาพที่เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน และจุดเด่นทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นทิวทัศน์อันงดงาม ก็คงจะพอเดากันได้ไม่ยากว่า ช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาท่องเที่ยวที่นี่ ก็ควรจะเป็นช่วงตั้งแต่ต้นฤดูฝนจนถึงปลายฤดูหนาว แต่ช่วงที่เหมาะสมและมีอากาศเย็นสบายที่สุด จะเป็นช่วงปลายฤดูฝนต่อกับต้นฤดูหนาว