Categories
เที่ยวภาคอีสาน

มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย

               ถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวของจังหวัด ชัยภูมิ หลายคนน่าจะนึกถึงความสวยงามของทุ่งดอกกระเจียวบานสีชมพูหวานใส ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยเม็ดชุ่มฉ่ำ แต่วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับสถานที่เที่ยวอีกแบบหนึ่งในชัยภูมิ จังหวัดสวยแห่งภาคอีสาน ที่มีธรรมชาติแสนสวยไม่แพ้จังหวัดไหนๆ ทั้งทุ่งดอกกระเจียวอันโด่งดัง ผาหัวนาค รวมถึง มอหินขาว ที่ได้ชื่อว่าเป็น สโตนเฮนจ์ของเมืองไทย ซึ่งเรากำลังจะพาไปเที่ยวชมในวันนี้

              มอหินขาว ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งคำว่า มอหินขาว ที่ว่านี้ก็ คือ กลุ่มของหินทรายสีขาวที่วางเรียงรายคล้ายกับ สโตนเฮนจ์ ในประเทศอังกฤษ และนี่จึงเป็นที่มาของฉายา สโตนเฮนจ์เมืองไทย นั่นเอง ซึ่งสิ่งที่ทำให้ มอหินขาว กลายเป็นสวนหินธรรมชาติขึ้นมาได้ ก็เพราะเกิดการสะสมของตะกอนทรายและดินเหนียวจนแข็งตัวกลายเป็นหิน

              หินรูปร่างต่างๆ ใน มอหินขาว แห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก จนเกิดการบีบอัด คดโค้ง แตกหัก และกัดเซาะกัน ทำให้ได้ออกมาเป็นหินรูปต่างๆ ที่มีความสวยงามแปลกตา ซึ่งใครจะมองออกมาเป็นรูปอะไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของแต่ละคนที่พบเห็น

             นอกจากหินที่นี่จะเป็นหินทรายสีขาวแล้ว ก็ยังมีหินแบบอื่นๆ ให้ได้เห็นกันด้วย ได้แก่ หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง ซึ่งเป็นกลุ่มหินที่กระจายตัวอยู่หลายแห่งด้วยกัน

           กลุ่มหินชุดแรกที่เราจะได้เห็นเมื่อเดินทางเข้าไปยังบริเวณของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีลักษณะเป็นเสาหิน 5 ต้น สูงประมาณ 12 เมตร โดยมีหินต้นหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มากถึงกับต้องใช้ 22 คนโอบเลยทีเดียว ซึ่งเสาหินทั้ง 5 ต้นนี้ นับว่าเป็นเสาหินที่โดดเด่นที่สุด และเป็นจุดที่ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด หากมาเที่ยวชมที่ มอหินขาว แห่งนี้

             ต่อจากหินกลุ่มนี้ ถัดไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอกับ ดงหิน ซึ่งประกอบไปด้วยแท่งหินรูปร่างแปลกประหลาดมากมาย ทั้งหินที่มีรูปร่างคล้ายเจดีย์ กระดองเต่า รองเท้าบูท ซึ่งจุดนี้ยังสามารถขึ้นไปชมวิวของภูเขาไกลสุดลูกหูลูกตาได้สวยงามมากๆ อีกด้วย

             หากใครสนใจจะมาพักค้างคืนที่ มอหินขาว ต้องบอกไว้ก่อนว่า ที่นี่ไม่มีบ้านพักไว้ให้ แต่จะมีที่สำหรับกางเต็นท์ และมีห้องน้ำไว้บริการ แต่อาจจะไม่ได้สะดวกมากมายนัก และนักท่องเที่ยวที่จะมานอนกางเต็นท์ ก็ต้องเตรียมอาหารมาเองด้วย ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

เที่ยวหนองคายภายใน 1 วัน

              ใครที่มีเวลาว่างสั้นๆ แค่วันเดียว อยากจะเที่ยวหนองคายแบบได้เก็บที่เที่ยวดังๆ ครบจบภายใน 1 วัน ตามเรามาได้เลย เพราะวันนี้เราจะพาไปเยือนหนองคายแบบ one day trip มาดูกันดีกว่าว่ามีสถานที่ไหนน่าสนใจบ้าง

ศาลาแก้วกู่
ศาลาแก้วกู่ หรือ วัดแขก อยู่ห่างจากตัวเมืองหนองคายแค่ประมาณ 3 กิโลเมตร นับเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่แปลกตา แต่ก็สวยงามมาก ทั้งยังเป็นลานที่มีรูปปั้นเรื่องราวทางศาสนาไว้มากมาย ใครเป็นสายอาร์ท และชื่นชอบในงานศิลปะ งานปั้นต่างๆ จะต้องชอบที่นี่แน่นอน

ตลาดท่าเสด็จ
ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งขายสินค้า OTOP และสินค้าพื้นเมืองมากมาย รวมไปถึงของที่ระลึกของจังหวัดหนองคายด้วย ที่สำคัญยังอยู่ติดริมแม่น้ำโขง ทำให้เราสามารถมองเห็นฝั่งประเทศลาวได้ใกล้ๆ เลย จะไปชอปปิ้ง หรือจะเดินเล่นชิลล์ๆ ริมแม่น้ำก็ฟินไม่แพ้กัน

พระธาตุหล้าหนอง
พระธาตุหล้าหนอง หรือ พระธาตุหนองคาย เป็นพระธาตุที่อยู่กลางน้ำ ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุโบราณเอาไว้อายุหลายร้อยปีด้วยกัน แต่ก่อนเจดีย์จะอยู่บนฝั่งริมน้ำในเขตของวัดพระธาตุหนองคาย แต่ในปี พ.ศ. 2390 ได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะ จนทำให้ไปอยู่กลางลำน้ำโขงแทน จากนั้นก็ได้มีการสร้างพระธาตุหล้าหนองรูปแบบจำลอง เอาไว้บนฝั่งให้ได้ชมกันด้วย

ถ้ำดินเพียง
เป็นที่รู้กันดีว่า หนองคายเป็นเมืองแห่งพญานาค เมื่อมาหนองคาย เราก็ต้องมาเช็คอินกันที่ ถ้ำดินเพียง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ถ้ำพญานาค ซึ่งตั้งอยู่ในวัดถ้ำศรีมงคล โดยตัวถ้ำจะมีลักษณะเป็นโพรง แยกซอยออกไปทั่วบริเวณ เมื่อเข้ามาภายในถ้ำจะพบหินงอกหินย้อยกระจายอยู่รอบๆ รวมทั้งเสาหิน และโพรงหินที่มีรูปทรงแปลกตา ก็ยิ่งทำให้ถ้ำสวยงามตระการตาน่าชมมากจริงๆ นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของจังหวัดหนองคายเลยทีเดียว

พันโขดแสนไคร้
แล้วก็มาจบ one day trip กันที่แหล่งท่องเที่ยวสุด Unseen ของจังหวัดหนองคาย นั่นก็คือ พันโขดแสนไคร้ เกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง ที่เกิดจากก้อนหินหลากหลาย โดดเด่นด้วยสีสันและความมันวาวของหินนิลสีดำสะดุดตา กระจายอยู่กลางแม่น้ำโขง ทำให้ที่นี่ได้รับฉายาว่าเป็น “แกรนด์แคนยอนกลางแม่น้ำโขง” ถ้าใครมาหนองคาย แล้วไม่ได้มาเช็คอินที่นี่ถือว่าพลาดมาก

              เห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่า จังหวัดหนองคายไม่ได้มีดีแค่เป็นเมืองพญานาคเท่านั้น แต่ยังมีที่เที่ยวน่าประทับใจอื่นๆ อีกมากมาย ใครมีเวลาน้อยก็ลองไปตามพิกัดที่เราแนะนำได้ ส่วนใครที่มีเวลามากกว่านี้ ก็จัดเต็มกันได้เลย

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

มาโคราชก็ดูทะเลหมอกได้ ไม่ต้องขึ้นเหนือ

                ถ้าพูดถึงการไปชมทะเลหมอก หลายคนคงคิดว่าถ้าอยากจะได้เห็นวิวสวยๆ ก็ต้องเดินทางขึ้นเหนือ ไปบนภู หรือดอยสูงๆ แต่สำหรับบางคนแล้ว ถ้าต้องลำบากเดินทางไกลขนาดนั้น ขอเปลี่ยนเป็นเที่ยวแบบชิลล์ๆ ใกล้ๆ ดีกว่า

                แต่อย่าเพิ่งถอดใจไป เพราะวันนี้เรามีที่เที่ยวที่สามารถชมทะเลหมอกได้สวยไม่แพ้จังหวัดทางภาคเหนือมาฝาก นั่นก็คือที่จังหวัด นครราชสีมา มาดูกันดีกว่าว่าที่นี่มีจุดเช็คอินชมทะเลหมอกที่ไหนกันบ้าง

  1. เขายายเที่ยง
    ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นับเป็นจุดชมทะเลหมอกโคราชที่ใครๆ ก็ต้องมาเช็คอิน อากาศที่นี่สดชื่นเย็นสบายมาก เพราะมีลมพัดตลอดเวลา โดยเฉพาะถ้ามาในช่วงฤดูหนาวเราจะได้พบกับสายหมอกบางๆ กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย ด้านบนยังมีวิวสวยๆ ของอ่างพักน้ำขนาดใหญ่ มีกังหันลมยักษ์ และเขื่อนลำตะคลองให้ได้ชม ซึ่งกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่ก็คือ การปั่นจักรยานรอบอ่างพักน้ำเพื่อสัมผัสอากาศบริสุทธิ์นั่นเอง
  • ผาเก็บตะวัน
    ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติทับลาน อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมานับเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิตตลอดกาลที่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ส่วนใครที่อยู่บ้านแล้วรู้สึกเบื่อๆ อยากลองมาทำประโยชน์บ้าง ที่ผาเก็บตะวันเขาก็มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำกันด้วย อย่างการปลูกป่า การยิงเมล็ดพันธุ์พืชด้วยหนังสติ๊ก มีทั้งเมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน ซึ่งเป็นวิธีปลูกป่าที่ได้ผลดีเลยทีเดียว ที่สำคัญมีจุดกางเต็นท์ไว้ให้สำหรับสายลุยด้วย
  • ผาเดียวดาย
    ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นับเป็นแลนด์มาร์กและจุดชมวิวทะเลหมอกในโคราชที่ใครๆ ก็ต้องรู้จัก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสายรักธรรมชาติ เพราะด้านบนอุทยานเราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม ทั้งน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวนรก และยังมีกิจกรรมส่องชีวิตสัตว์ยามค่ำคืนอีกด้วย ยิ่งในช่วงฤดูหนาวจะได้เห็นสายหมอกได้ทั่วบริเวณเลยทีเดียว
  • ผารักษ์สลัดได
    ตั้งอยู่ที่ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ผาแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงชัน บริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยต้นสลัดได ต้นไม้ประจำถิ่นหาชมยาก ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ ที่ผารักษ์สลัดไดเรายังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้อย่างสวยงาม พร้อมกับทิวทัศน์ของอำเภอวังน้ำเขียวได้เกือบทั้งอำเภออีกด้วย

              ใครที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง วันหยุดน้อย และไม่สะดวกเดินทางไกล หรือไปค้างหลายวัน ขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวกันตามพิกัดเหล่านี้ได้เลย รับรองว่าจะได้ชมบรรยากาศของทะเลหมอกที่สวยไม่แพ้ที่ใดๆ เช่นกัน

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคอีสาน เที่ยวภาคเหนือ

ทุ่งดอกไม้ถ่ายรูปสวย

                 สถานที่เที่ยวสวยๆ ในประเทศไทย นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวล่องแก่ง ปีนผา บุกป่า ฝ่าคลื่น หรือกางเต็นท์นอนดูดาว ตื่นเช้ามาดูทะเลหมอกแล้ว ก็ยังมีสถานที่ให้ได้เที่ยวเล่นกันแบบชิลล์ๆ อย่างการเดินเล่นชมทุ่งดอกไม้สวยๆ แถมยังถ่ายรูปออกมาเป๊ะปัง ได้ฟีลโรแมนติกไม่แพ้ที่ไหนๆ อีกด้วย ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวสไตล์เบาๆ แบบนี้ ขอเชิญปักหมุดแล้วตามเรามาได้เลย

  1. ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน
    นับเป็นหนึ่งที่เที่ยวที่สายถ่ายรูปกับดอกไม้ต้องห้ามพลาด โดยเหล่าบรรดาดอกบัวตองสีเหลืองสด จะพากันบานสะพรั่งอวดความสดใส พร้อมเป็นพรอพให้ถ่ายรูปกันได้อย่างเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงธันวาคมของทุกปี ใครชอบความสดใสของดอกไม้สีเหลืองทองอร่อม ก็ต้องเตรียมจัดสรรเวลาว่างให้ตรงกับช่วงนี้กันด้วยนะ
  • ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ จ.เชียงใหม่
    ส่วนใครที่อยากมาสูดอากาศดีๆ บนยอดดอย พร้อมกับถ่ายรูปสวยๆ กับดอกไม้สีม่วงละมุนตา ก็ต้องมาที่ทุ่งดอกไฮเดรนเยียที่โครงการหลวงขุนแปะ ซึ่งดอกไม้จะบานเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี รับรองเลยว่ามาทีนี่จะได้ฟีลเหมือนไปเที่ยวเมืองนอกยังไงอย่างงั้น
  • ทุ่งดอกทานตะวัน ไร่มณีศร จ.นครราชสีมา
    นับเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ยอดฮิตตลอดกาล ที่ใครๆ ก็อยากมาถ่ายรูปด้วยไม่ขาดสาย นั่นก็คือ ทุ่งดอกทานตะวัน ส่วนสถานที่แนะนำก็คือ ที่ไร่มณีศร เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มากนัก ใครไม่สะดวกไปเที่ยวจังหวัดไกลๆ สามารถขับรถไปชิลล์กันได้สบายมาก และอีกหนึ่งความพิเศษของที่นี่ก็คือ นอกจากเราจะได้เจอกับทุ่งทานตะวันที่สวยงามแล้ว ยังมีฉากหลังเป็นเมืองอิตาลี ที่ได้บรรยากาศเหมือนต่างประเทศสุดๆ
  • ลานต้นคริสต์มาส ภูเรือ จ.เลย
    ในช่วงส่งท้ายปลายปี หากใครยังไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหน ขอแนะนำที่จังหวัดเลย เพราะที่นี่เค้ามีเทศกาลคริสต์มาสภูเรือ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยจะมีการจัดแสดงต้นคริสต์มาสสีแดงสดให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงามและถ่ายรูปเป็นจำนวนหลายหมื่นต้น นอกจากนี้ก็ยังการจำหน่ายสินค้า OTOP มีการจัดแสดงดนตรี และถนนอาหารให้นักท่องเที่ยวได้ชมและชิมกันอย่างจุใจ เพราะงานจะเริ่มจัดตั้งแต่ประมาณเดือนพฤศจิกายน ยาวไปจนถึงเดือนมกราคมของปีถัดไปเลยทีเดียว

             ใครที่เป็นสายหวาน ชอบถ่ายรูปกับดอกไม้ สายลม และแสงแดด ลองหาเวลาไปเที่ยวสถานที่ที่ปักหมุดไว้ให้นี้ รับรองว่าจะต้องฟินและอินกันสุดๆ แน่นอน

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคกลาง เที่ยวภาคอีสาน เที่ยวภาคเหนือ เที่ยวภาคใต้

แนะนำที่เที่ยวฟินๆ ช่วงปลายฝนต้นหนาว

                ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นช่วง ปลายฝนต้นหนาว ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้เที่ยวชมความงามของทะเลหมอก และสูดอากาศสดชื่นกันให้ชุ่มฉ่ำปอด แต่จะมีสถานที่ไหนที่เราสามารถไปชาร์จแบตให้ธรรมชาติเยียวยาได้บ้าง เรามีข้อมูลดีๆ มาแนะนำ

  1. ไร่ชาฉุยฟง / เชียงราย
    นับเป็นไร่ชายอดฮิตที่สามารถเที่ยวได้ทั้งหน้าฝนและหน้าหนาวเลยทีเดียวสำหรับ ไร่ชาฉุยฟง โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะเราจะได้วิวสวยๆ ของไร่ชาที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนเป็นพรอพเก๋ๆ ให้ได้ถ่ายรูปกันแบบแบบพาโนราม่า นอกจากนี้ก็ต้องไม่พลาดลองชาเขียวปั่นกับชีสเค้กชาเขียวที่คาเฟ่ของไร่ชา ซึ่งใช้ชาเขียวจากไร่เองเลยด้วย
  • ผาชะนะได / อุบลราชธานี

เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ ผาชะนะได กันมาบ้างจากข่าวพยากรณ์อากาศ เนื่องจากที่นี่เป็นผาที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของประเทศไทย จึงเป็นจุดที่พระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศ ผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตของ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เมื่อได้ขึ้นไปบนหน้าผาแล้วมองลงมา จะเห็นวิวเบื้องล่างที่สวยงามอลังการมาก นั่นคือวิวของแม่น้ำโขงที่กั้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับลาว ซึ่งเต็มไปด้วยป่าไม้เขียวขจี และทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขง

  • ดอยหัวหมด / ตาก
    ดอยหัวหมด เป็นจุดชมทะเลหมอกชื่อดังของจังหวัดตาก ตั้งอยู่ในเขตอำเภออุ้มผาง หากมาเที่ยวที่นี่เราจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดมากๆ โดยสามารถขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือผืนทะเลหมอกยามเช้า พร้อมกับชมวิวแบบพาโนราม่าได้ โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว แนะนำให้ขึ้นไปดูทะเลหมอกในช่วงตี 5 ถึง 6 โมงเช้า จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด นอกจากทะเลหมอกสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีทุ่งดอกไม้สีชมพู ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งทั่วดอย จนทำให้ ดอยหัวหมด ในช่วงเวลานั้น ถูกเรียกว่า ดอยชมพู เลยทีเดียว
  • ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง / ยะลา

ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ภาคอื่นๆ เลย สำหรับทะเลหมอก อัยเยอร์เวง ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่สำคัญคือ มีทะเลหมอกให้เราได้เห็นกันแทบทั้งปีอีกด้วย และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ การเดินบน สกายวอล์คอัยเยอร์เวง ซึ่งเป็นพื้นกระจกใส ตั้งอยู่บนระดับความสูงกว่า 2,038 ฟุต ยาว 61 เมตร นับว่าเป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในอาเซียนเชียวนะ

                แนะนำกันไปครบถ้วนแล้ว สำหรับที่เที่ยวเด็ดๆ ในการชมทะเลหมอกในช่วงปลายฝนต้นหนาว ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง และใต้ ใครสะดวกไปที่ไหน ก็เชิญได้ตามอัธยาศัย หรือใครอยากจะไปให้ครบทุกที่ก็ไม่ว่ากันจ้า

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

ท่องเที่ยว จ.อุดรธานี 2

12 อันดับสถานที่ท่องเที่ยว จ.อุดรธานี

อนที่ 2

มาเที่ยวอุดรธานี อีก 5 สถานที่ท่องเที่ยวที่ยังเหลือลำดับที่ 6 –ลำดับที่ 12  ต่อจากบทความท่องเที่ยวอุดรธานีตอนที่ 1 กันเลยดีกว่า จะได้เที่ยวทิพย์ให้อิ่มอกอิ่มใจกันไปก่อนที่จะได้ไปเที่ยวในสถานที่จริงๆ เมื่อโรคระบาดโควิด 19 จากเราไปแล้ว

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

         6.คำชะโนด ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านม่วง อ.บ้างดุง จ.อุดรธานี โดยคำชะโนดตั้งอยู่ในพื้นที่ของ 3 ตำบลคือ ตำบลวังทอง ตำบลบ้านม่วง และตำบลบ้านจันทร์ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นดินแดนลี้ลับของพญานาค เรียกกันว่า วังนาคินทร์ เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของพญานาคปู่ศรีสุทโธ และย่าศรีประทุมมา มีลักษณะเป็นเกาะลอยน้ำที่เต็มไปด้วยต้นชะโนด เชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

          7.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลก ใครที่ชอบเรียนรู้วัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาด

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

          8.เขื่อนห้วยหลวง ตั้งอยู่ที่ ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นอ่างเก็บน้ำขนดใหญ่เพื่อการเกษตร การประมง และเป็นแหล่งน้ำเพื่อผลิตน้ำประปา ในอ่างเก็บน้ำมีที่ประทับ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบและชิวมากๆ ใครที่อยากพักผ่อนนอนเล่นบนแพ ดูฟ้าและน้ำ ไม่ควรพลาดสถานที่แห่งนี้ เพราะเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนสุดๆ

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

9.สวนสาธารณหนองประจักษ์ศิลปาคม ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล เมือง อุดรธานี นิยมเรียกกันสั้นๆว่าหนองประจักษ์ สถานที่แห่งนี้เป็นเสมือนแลนด์มาร์ค และเป็นแหล่งรวมกิจกรรมของชาวอุดรธานี ซึ่งก่อนหน้าเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า หนองนาเกลือ  เป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวอุดรธานี จนกระทั่ง ปี พ.ศ.2530 จึงมีการปรับแต่งภูมิทัศน์โดยรบเพื่อปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะของจังหวัด จุดเด่นคือมีลูกเป็ดยักษ์สีเหลืองสดใสลอยอยู่กลางน้ำ สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวอุดรธานี ถ้าได้ไปเที่ยวจังหวัดอุดรก็แวะไปนั่งเล่นเพลินๆกันได้

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

          10.ศูนย์วัฒนธรรมไทย – จีน ตั้งอยู่ที่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นสถานที่จำลองบรรยากาศแบบจีน เหมือนยกเมืองจีนมาไว้ใจกลางจังหวัดอุดรธานี สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเจ้าปู่และเจ้าย่าผู้เป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวอุดรธานี โดยมีศาลเจ้าปู่เจ้าย่าตั้งอยู่ภายในศูนย์วัฒนธรรม เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมเยือนได้เข้าไปเคารพกราบไหว้ขอพร

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

         11. ทุ่งดอกปอเทือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ป้ายแดงของจังหวัดอุดรธานี ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน โดยทุ่งดอกปอเทืองสีเหลืองอร่ามแห่งนี้ อยู่ในพื้นที่ อ.หนองแสง ซึ่งเกษตรกรเป็นคนช่วยกันปลูกเพื่อทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวและปรับสภาพดินในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก รวมพื้นที่กว่า 10,000 ไร่  โดยมีการเปิดเส้นทางปั่นจักรยานท่ามกลางทุ่งดอกปอเทืองให้นักท่องเที่ยวที่รักการปั่นได้สนุกกันอีกด้วย

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

         12.น้ำตกธารงาม เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในป่าขุนห้วยสามพาด และขุนห้วยกองสี อยู่ในเขตพื้นที่ของ ภูเขาภูพาน เขต อ.หนองแสง ซึ่งน้ำตกแห่งนี้ถือเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าดงดิบ มีชั้นน้ำตกที่กว้างใหญ่ และชั้นน้ำตกที่ลดหลั่นในระดับที่ไม่สูงนัก มีกระแสน้ำตกที่ไม่รุนแรงเหมาะกับการลงเล่นน้ำได้

          และทั้งหมด 12 สถานที่ท่องเที่ยวที่ของจังหวัดอุดรธานี เราได้พาไปคุณไปเที่ยวทิพย์กันล่วงหน้าก่อนที่จะออกเดินทางไปเที่ยวกันจริงๆหลังหมดการระบาดของโควิด 19 ถึงวันนั้นจัดกระเป๋าแล้ว อย่าลืมชวนไปเที่ยวด้วยล่ะกัน

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

คำขวัญจังหวัดอุดรธานี : กรมหลวงประจักษ์สร้างเมือง ลือเลื่องแหล่งธรรมะ อารยธรรมห้าพันปี ธานีผ้าหมี่ขิด

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

ท่องเที่ยว จ.อุดรธานี

12 อันดับสถานที่ท่องเที่ยว จ.อุดรธานี

ตอนที่ 1

จังหวัดอุดรธานีเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากด้านประวัติศาสตร์ อีกยังเป็นจังหวัดที่ตั้งของมรดกโลกอีกด้วย วันนี้เราจึงจะพาไปเที่ยว 12 สถานที่ท่องเที่ยวของอุดรธานี ที่ไปแล้วต้องเที่ยวให้ครบ ไปเที่ยวพร้อมๆกันเลย

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

1.วัดสันติวนาราม ตั้งอยู่ที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี อยู่ใกล้กับแหล่งมรดกโลกชุมชนบ้านเชียง ภายในวัดกว้างขวาง สะอาด สงบ ร่มรื่นสวยงาม จุดเด่นของที่นี่คือ อุโบสถกลางน้ำขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเป็นรูปดอกบัวสีขาวสวยงามมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 19 เมตร สูง 19 เมตร ประกอบด้วยดอกบัว 24 กลีบและมีพญานาค 2 ตัวอยู่ด้านหน้าโบสถ์ ภายในมีองค์ประประธานสีขาว ตัวโบสถ์ตั้งอยู่กลางบึงน้ำ หากใครอยากหาสถานที่สงบใจ ที่นี่ตอบโจทย์อย่างมาก

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

          2.ทะเลบัวแดง ตั้งอยู่ที่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี  เป็นบึงที่เป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อดังของ จังหวัดอุดรธานี เป็นแหล่งน้ำขนาดกว้างทีเต็มไปด้วยดอกบัวสีแดงจำนวนมาก กว้างไกลสุดสายตา ตะชูช่อบานและออกดอกมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม –กุมภาพันธ์ โดยดอกบัวจะบานในช่วงเช้าถึงเวลาประมาณ 11.00 น.

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

         3.บ้านห้วยสำราญ ตั้งอยู่ที่ บ้านห้วยสำราญ ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นหมู่บ้านที่มีพื้นที่ 625 ไร่ เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน เป็นหมู่บ้านเชิงท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ของ อุดรธานี ที่หมู่บ้านนี้ชาวบ้าน ปลูกไม่ดอกไม่ประดับเป็นอาชีพหลัก จึงทำให้หมู่บ้านเต็มไปด้วยสีสันที่สวยงามของดอกไม้เต็มหมู่บ้าน ใครที่ชื่นชมกลิ่นหอมและความสวยงามของดอกไม้ ห้ามพลาดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นอันขาด

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

         4.วัดโพธิสมภรณ์ ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นวัดประจำเมืองอุดรธานี สร้างขึ้นเมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 งดงามด้วยอุโบสถ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรัศมี พระพุทธรูปทองสำริดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัยอายุกว่า 600 ปี และวัดนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ที่บรรจุอัฐิของหลวงปู่มั่น  และภายในเจดีย์ยังมีจิตรกรรมฝาผนังสามมิติที่วาดขึ้นอย่างละเอียดงดงาม เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดอุดรธานี เพราะวัดแห่งนี้ได้รับการโปรดเกล้า พระบรมราชานุญาติให้เป็นอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ใครที่ไปอุดรธานีอย่าลืมแวะสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคล

จ.อุดรธานี
จ.อุดรธานี

5.วัดป่าภูก้อน ตั้งอยู่ที่ อ.นายูง จ.อุดรธานี เป็นพุทธสถานตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่านายูงและป่าน้ำโสม โดยวัดเกิดจากความตั้งใจที่จะรักษาป่าไม้ไว้ให้สมบูรณ์ เลยสร้างสถานที่สำคัญทางศาสนาขึ้น เพื่อเป็นทั้งแหล่งปฏิบัติธรรมและแหล่งท่องเที่ยว ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ ถือเป็นวัดที่มีความสวยงามและอลังการอย่างมาก

         บทความนี้พาเที่ยวจังหวัดอุดรมาครบ 5 ที่แล้ว ซึ่งมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไปด้วยสถาปัตยกรรมของวัดวาอาราม และความสวยงามของดอกไม้อีกหลายสถานที่  ยังคงเหลือสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของ จังหวัดอุดรธานี อีก 7 สถานที่ จะสวยงามและประทับใจแค่ไหนตามไปเที่ยวชมในบทความตอนที่ 2 กันเลย

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน

คำขวัญจังหวัดอุดรธานี : กรมหลวงประจักษ์สร้างเมือง ลือเลื่องแหล่งธรรมะ อารยธรรมห้าพันปี ธานีผ้าหมี่ขิด

Categories
เที่ยวภาคอีสาน

จังหวัดบึงกาฬ

เที่ยว จ.บึงกาฬ ไม่ไปไม่รู้ว่าอลังการกว่าที่คิด

จ.บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ 77 ซึ่งตั้งอยู่ทางภาตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย หลายคนคิดว่าคงไม่มีที่เที่ยวที่น่าสนใจ จึงไม่เคยวางโปรแกรมที่จะไปท่องเที่ยวที่จังหวัดนี้ ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนไปดุกันว่า บึงกาฬก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย บรรยากาศดี น่าประทับใจไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ จริงไม่จริงตามไปดูกันเลย

จ.บึงกาฬ
จ.บึงกาฬ

1.หินสามวาฬ

สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในกลุ่มท่องเที่ยว UNSEEN THAILAND จึงเป็นสานที่ท่องเที่ยวที่เป็น highlight ของจังหวัด ที่นี่เป็นโขดหินทรายขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬ แยกออกเป็น3 ก้อนขนาดลดหลั่นกันไป มองดูแล้วเหมือนปลาวาฬ พ่อแม่ลูกกำลังว่ายน้ำอยู่เคียงกัน สวยงามแปลกตามากๆเลยล่ะค่ะ

โดยหินสามวาฬ ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของภูสิงห์ พื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ถือเป็นจุดชมวิว และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงาม มองเห็นผืนป่าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา และมองเห็นแม่น้ำโขงได้อีกด้วย ซึ่งถ้าใครจะวะมาเที่ยวที่นี่ตอนหน้าฝนต้องสวมรองเท้าที่มีการยึดเกาะพื้นได้ดีจะได้เดินเที่ยวได้อย่างมั่นใจไม่ต้องกลัวลื่น

จ.บึงกาฬ
จ.บึงกาฬ

2.ภูทอก

เป็นสถานที่เที่ยวต่อมาก็ถือเป็นพิกัดห้ามพลาดของบึงกาฬที่ ที่เรียกว่าเป็น  Amazing Thailand เพราะเป็นเขาสองลูกมีขนาดเล็กใหญ่เชื่อมต่อกันอย่างสวยงามเสมือนงานปะติมากรรม ที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถือ เป็นศาสนสถาน แห่งหนึ่งเพราะมีวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรมอยู่บนภูทอก ซึ่งบนภูทอก

จะมีบันไดเวียนและมีสะพานไม้เวียนรอบๆเขา เพื่อเป็นทางพาไปยังจุดชมวิวและสถานปฏิบัติธรรม ณ วัดภูทอกที่ตั้งอยู่ด้านบนของภูทอกภูทอกนั้นมีทั้งหมด 7 ชั้น โดยชั้นที่คนนิยมขึ้นไปมากที่สุดคือชั้น 6 เพราะจะมีหน้าผายื่นออกออกไป สำหรับเป็นจุดชมวิว

แต่ถ้าใครที่อยากมานั่งสมาธิก็ให้ขึ้นไปได้ที่ชั้น 5 เพราะชั้น 5 จะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและเป็นกุฏิของพระสงฆ์ ที่ชั้นนี้ บรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการนั่งสมาธิและปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก

จ.บึงกาฬ
จ.บึงกาฬ

3.น้ำตกถ้ำพระ

เปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสความชุ่มฉ่ำกันที่น้ำตกถ้ำพระสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกสวยงาม ที่หลายคนมาเช็คอินน์กัน จุดเด่นของน้ำตกนี้ คือที่มีสไลเดอร์โขดหินแบบธรรมชาติให้ได้เล่นกัน   เรียกว่าใครได้ลองเล่นแล้วสนุกสุดๆ อยากจะกลับไปเล่นซ้ำอีก  แต่ขอแนะนำให้มาเที่ยวน้ำตกถ้ำพระในช่วงหน้าฝนนะ น้ำจะเยอะและสวยงาม

การเดินทางไปเที่ยวน้ำตกถ้ำพระต้องเดินทางด้วยการนั่งเรือเข้าไปประมาณ 20นาที และเดินเท้าต่อไปอีก 300 เมตร ซึ่งจะก็บรรยากาศและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่สนุกไปอีกรูปแบบหนึ่ง

          น้ำตกที่นี่มี 3 ชั้น โดยชั้นที่ 1 จะมีพุทธรูปประดิษฐานไว้บนหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวมากราบสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล

จ.บึงกาฬ
จ.บึงกาฬ

4.น้ำตกเจ็ดสี

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 4 เราจะพาคุณไปตามหาสายรุ้งกัน น้ำตกเจ็ดสีตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ที่นี่เป็นน้ำตกตื้นๆที่สามารถนั่งพักผ่อนแช่น้ำได้  เหมาะกับการมาเล่นน้ำให้ชื่นฉ่ำ แถมยังมีhighlight เด็ดคือ จะเห็นสายรุ้งที่เกิดจากละอองน้ำกระทบจากแสงแดดให้ได้ชมอีกด้วย

          น้ำตกเจ็ดสีมีทั้งหมด 4 ชั้น และถ้าเดินขึ้นมาถึงชั้นที่ 4 ก็จะพบกับความอลังการของผาหินสูงประมาณ 13 เมตร ที่มีน้ำตกตกลงมาอย่างสวยงาม และสามารถเดินไปเล่นน้ำโดยให้น้ำตกลงมากระทบชุ่มฉ่ำกายใจได้เลย

จ.บึงกาฬ
จ.บึงกาฬ

5.ภูวัว  

ซึ่งในเขตพันธุ์รักษาสัตว์ป่าภูวัวนี้ เป็นพิกัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ กางเต้นท์นอนดูดาวยามค่ำคืนกันจำนวนมาก ซึ่งการเดินป่าต้องใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่าๆ โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่ที่ทำการรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และจุดสิ้นสุดอยู่ที่ลานหินอเมริกา ตลอดเส้นทางกะเจอกับพันธุ์ไม้นานาชนิด น้ำตก จุดนั่งชมวิวผานางคอย

และผ่านป่าไผ่ก่อนจะถึงลานหินอเมริกาซึ่งเป็นจุดกางเต้นท์ แต่ที่ต้องเตรียมตัวคือ ระหว่างทางจะเจอกับความลื่น ดังนั้นจึงควรใส่รองเท้าที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะพื้นจะดีที่สุด เพราะเนื่องจากเส้นทางที่เดินป่าจะพบกับก้อนหินที่มีตะใคร่น้ำเกาะ แต่รับประกันว่าถ้าได้มากางเต้นท์ที่ภูวัวสักคืนบนลานหินอเมริกา เพื่อนๆจะได้ชาร์ตพลังจากธรรมชาติกลับไปอย่างเต็มอิ่มอย่างแน่นอน

และทั้งหมดคือ 5 สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬ ไม่

ธรรมดาเลยใช่ไหม โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขา น้ำตก  ดังนั้นถ้าเพื่อนๆมีเวลาและโอกาสมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเมื่อไหร่ อย่าลืมจัดโปรแกรมไปท่องเที่ยวเที่ยวที่บึงกาฬกันด้วยนะ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com