เกาะเชจู เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ประมาณ 130 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่เที่ยวธรรมชาติสวยๆ มากมายที่ไม่ควรพลาดหากได้ไปเกาหลี วันนี้เราเลยจะขอชวนทุกคนไปทำความเข้าใจกับข้อควรรู้ก่อนเที่ยวเกาะเชจู เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมกันก่อนดีกว่า

                 เกาะเชจู เป็นเกาะที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อน ทำให้ปัจจุบันยังมีปากปล่องภูเขาไฟหลายแห่งที่ดับสนิทแล้วหลงเหลือไว้ให้เราได้ชมกัน บนเกาะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เมืองเชจู (Jeju City) ที่เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเชจู และ เมืองซอกวีโพ (Seogwipo) ที่ครอบคลุมพื้นที่ตอนใต้ของเกาะทั้งหมด ทั้งยังเป็นแหล่งที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายด้วย

การเดินทาง
วิธีการเดินทางไปยังเกาะเชจู ง่ายที่สุด คือ การนั่งเครื่องบินจากกรุงโซลไปยังเกาะเชจู โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที  ส่วนการเดินทางในเกาะเชจูนั้น สามารถเลือกได้ว่าจะเช่ารถยนต์ขับเอง นั่งรถบัส หรือ นั่งรถแท็กซี่ หากจะเช่ารถขับเที่ยวเอง จะต้องทำใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (International Driving Permit) หรือ ใบขับขี่สากลมาแล้ว แต่สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ก็สามารถเลือกโดยสารด้วยบัส ซึ่งมีประจำอยู่ทั่วเกาะ หรือสามารถเรียกแท็กซี่ได้จากแอปฯ เรียกแท็กซี่ของเกาหลี ชื่อว่า KakaoTaxi ได้

ที่พัก
ขึ้นชื่อว่าเป็นที่เที่ยวชื่อดังของเกาหลี ก็ต้องมีโรงแรม รีสอร์ท และที่พักหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรรอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นที่พักในตัวเมือง ที่พักติดทะเลบรรยากาศดีๆ หรือที่พักท่ามกลางธรรมชาติ ส่วนราคาก็ย่อมจะแตกต่างกันไป ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกได้ตามใจชอบเลย

ฤดูท่องเที่ยว
เราสามารถเที่ยวเกาะเชจูได้ตลอดทั้งปี เพราะแต่ละฤดูจะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งฤดูกาลบนเกาะเชจูนั้นมีด้วยกันถึง 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และ ฤดูหนาว โดยในช่วง ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) เราจะได้เห็น ทุ่งดอกคาโนล่า (Canola) สีเหลืองอ่อนบานทั่วทุ่ง รวมถึง ดอกซากุระ ที่จะบานในช่วงเดือนเมษายนด้วย สำหรับใครที่อยากไปนอนอาบแดด และทำกิจกรรมทางน้ำที่ทะเล

แนะนำให้มาในช่วง ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) ซึ่งบนเกาะเชจูนั้นมีชายหาดชื่อดังอยู่หลายหาด ให้ได้เลือกทำกิจกรรมกันอย่างจุใจ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (กันยายน-พฤศจิกายน) ก็เป็นอีกหนึ่งฤดูที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ใคร โดยบนเกาะเชจูเองก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอยู่หลายแห่งด้วยกัน ส่วน ฤดูหนาว (ธันวาคม-มีนาคม) บางพื้นที่ของเกาะจะปกคลุมไปด้วยหิมะ เกิดเป็นภาพที่สวยงามและได้ฟีลไปอีกแบบ

                เนื่องจากเกาะชจูเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติของเกาหลี จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอยู่นับไม่ถ้วน แถมยังสามารถอนุรักษ์ป่าเขาให้คงความอุดมสมบูรณ์มาจนถึงทุกวันนี้ได้ ช่างน่าประทับใจจริงๆ

สถานที่เที่ยว ที่น่าสนใจ ที่รวม ที่เที่ยว ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้ที่นี่ทั้งหมด เที่ยวไปกับเรา tiewkanna.com สามารถติดตามทาง page Facebook กิน นอน เที่ยวไหน